“อลงกรณ์”ขอชิงเก้าอี้ "มาร์ค"ฟื้นฟู ปชป.ใหม่

2018-09-25 17:45:04

“อลงกรณ์”ขอชิงเก้าอี้ "มาร์ค"ฟื้นฟู ปชป.ใหม่

Advertisement

"อลงกรณ์" หารือ"อภิสิทธิ์" ถกกติกาชิงหัวหน้า ปชป. ตั้งใจฟื้นฟู บริหารจัดการพรรคใหม่ ระบุถ้าได้เป็นหัวหน้าพรรคจะใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปพบกับประชาชน ไปหาสมาชิก

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งลาออกไปเป็นรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้เวลากว่า 1 ชม.



นายอลกรณ์ กล่าวว่า มีการพูดถึงอนาคตของประเทศ และของพรรค รวมทั้งการเลือกตั้ง ด้วยความห่วงใย ขณะเดียวกันมาสอบถามแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับกฎกติกาของระบบไพรมารีการเลือกหัวหน้าพรรค โดยเห็นพ้องในเรื่อของกรรมการไพรมารีที่มาจากตัวแทนผู้สมัครที่จะเป็นผู้กำหนดกฎกติกาต่างๆ เหมือน กกต.โดยจะมีการหารือร่วม 3 ฝ่ายคือตน นายอภิสิทธิ์ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลกเพื่อดูกติกาเรื่องวันแมนวันโหวต จะเปิดกว้างให้สมาชิกพรรคเคยลงทะเบียนกับพรรคก่อน เม.ย.และหลัง เม.ย.2561 เกือบ 3 ล้านคนมีสิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค โดยใช้วิธีนับทุกคะแนน หรือแบบวันแมนวันโหวต และให้ผู้ที่ลงสมัครชิงหัวหน้าพรรคต้องดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ให้สมาชิกพรรคพิจารณาตัดสินใจ จากนั้นให้เสนอชื่อผู้ชนะเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ลงมติเลือก โดยถือเป็นสัญญาสุภาพบุรุษผู้ที่ผู้แพ้จะต้องถอนตัว ซึ่งประเด็นนี้นายอภิสิทธิ์ก็มีท่าทีเห็นด้วย ใครชนะไพมารีก็นำชื่อเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ คนที่ได้คะแนนน้อยก็ต้องถอนตัว โดยทั้งหมดจะต้องเข้าที่ประชุม 3 ฝ่าย ตกลงกันก่อนว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งทุกอย่างควรจะได้ข้อยุติในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ยืนยันว่าตนลงสมัครชิงหัวหน้าพรรคแน่นอน เพราะมีความตั้งใจไม่เช่นนั้นจะไม่กลับมาการเมืองอีก และมีคุณสมบัติครบ เป็นอดีตรัฐมนตรี และส.ส.มาหลายสมัยตอนแรกไม่คิดจะไม่กลับมาการเมืองอีก แต่เมื่อบ้านเมืองยังไม่มีอนาคตที่สดใส จึงกลับมา






เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่ามาลงสมัครหัวหน้าพรรค เพราะสมัคร ส.ส.ไมได้ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ตั้งใจจะมาฟื้นฟูพรรค รวมทั้งการบริหารจัดการพรรคใหม่ ถ้าเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่มีสิทธิ์ลงสมัคร ส.ส. ดังนั้นการจะบริหารพรรคต่อไปข้างหน้าของตน หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ไม่ต้องไปทำงานอยู่ในสภาฯ อย่างเดียว การเมืองยุคใหม่ตนจะให้รองหัวหน้าพรรคคนที่หนึ่งดูแลงานกิจการสภา และงานการเมือง รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2 ดูแลเรื่องนโยบายและยุทธศาสตร์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3 ดูแลสมาชิกและรักษาฐานพรรค รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4 ดูแลความเดือนร้อนของประชาชน เพราะพรรคการเมืองไม่มีหน้าที่แค่เลือกตั้ง หรือเป็น ส.ส. แต่พรรคการเมืองเป็นสถาบันและองค์กรทางการเมือง ถ้าตนเป็นหัวหน้าพรรคจะเป็นโอกาสของพรรคมากกว่า เพราะจะใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปพบกับประชาชน ไปหาสมาชิก นำกฎเหล็ก 5 ข้อไปเสนอแล้วสร้างประชาธิปัตย์ใหม่ เพราะหัวหน้าพรรคต้องฟื้นฟูและสร้างรากฐานประชาธิปัตย์ใหม่ แต่หากไม่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ก็ยังเดินหน้าต่อ





“วันนี้ประชาธิปัตย์จะต้องเป็นพรรคการเมืองที่ใส่เสื้อขาว และเดินหน้ากฎเหล็ก ผมเชื่อว่า หัวหน้าพรรคใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็น และเดินออกไปทั่วประเทศได้ เชื่อว่าเราชนะทุกสี แต่อาจจะพ่ายแพ้บ้าง เพราะเวลามีจำกัด แต่ในโลกดิจิตอล อาจทำให้ประชาธิปัตย์พลิกกลับมาชนะถล่มทลาย ผมเชื่อว่าประชาธิปัตย์ทำได้ ”นายอลงกรณ์ กล่าว