“ทักษิณ” โพสต์รำลึก “12 ปี รัฐประหาร 19 กันยา” ขออโหสิทุกคน

2018-09-18 15:50:26

“ทักษิณ” โพสต์รำลึก “12 ปี รัฐประหาร 19 กันยา” ขออโหสิทุกคน

Advertisement

ดร.ทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความรำลึก “12 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549” ที่จะครบ 12 ปีในวันที่ 19 ก.ย. 2561



หลังจากที่เงียบไปพักหนึ่ง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้กลับมาสู่โลกโซเชียลอีกครั้ง โดยครั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่นมาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19ก.ย. 2549 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีพลเอก สนธิ บุญยรัตกลินเป็นหัวหน้า ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองราชอาณาจักรไทยไว้ได้ ซึ่งจะครบรอบ 12 ปีในวันที่ 19 ก.ย. 2561 นี้




โดย ดร.ทักษิน ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Thaksin Shinawatra” ว่าด้วยเหตุบ้านการเมืองตลอด 12 ปีนับจากที่รัฐบาลของตนถูกทำรัฐประหารจวบถึงปัจจุบันที่เกิดการยึดอำนาจอีก 1 ครั้งในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยระบุว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะลงท้ายว่าขออโหสิให้กับทุกคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับตน





“12 ปี จาก 19 กันยายน 2549 ถึง 19 กันยายน 2561

วันนี้ผมอยากให้ทุกท่านลองวางใจให้เป็นกลาง แล้วหลับตานึกว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ ท่านคิดว่าประเทศไทยเจริญขึ้นแล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ระบบราชการบริการประชาชน ยาเสพติด การสาธารณสุข กระบวนการยุติธรรม เศรษฐกิจของท่านเองรวมถึงความสุขของท่านและคนรอบตัวท่าน สุดท้ายคือศักดิ์ศรีประเทศและความภูมิใจของท่าน

เรามีการปฏิวัติ 2 ครั้งใน 12 ปี ปฏิวัตินายกฯที่เป็นพี่น้องกันและได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แน่นอนมีคนได้ดีและร่ำรวยจากการปฏิวัติทั้ง 2 ครั้ง แต่คนที่แย่ลงในหลายมิติมีมากกว่า และไม่สำคัญเท่ากับประเทศไทยที่เรารักถูกมองแย่ลงในสายตาคนทั้งโลก เราถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหันหน้ามาปรึกษาหารือกันเพื่อบ้านเมือง หรือว่าเราจะตะแบงฟาดฟันกันฝ่ายเดียว ทั้งๆที่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นที่ต่างกัน ชอบไม่เหมือนกัน บางคนต้องถึงกับชีวิต บางคนเจ็บป่วย บางคนติดคุก บางคนถูกกลั่นแกล้งทางธุรกิจ ทางอาชีพและตำแหน่งหน้าที่ราชการ จนอยากจะตะโกนแรงๆ ว่าเราคนไทยด้วยกันไม่ใช่หรือ




ภาพ AFP

แล้ววันนี้เราช้ำกันพอแล้วหรือยัง ประเทศช้ำพอแล้วหรือยัง รอยยิ้มของไทยที่เรียกว่ายิ้มสยามหายไปไหนหมด แล้วเราจะอยู่กันแบบนี้ ในขณะที่โลกเขากำลังเอาสมองไปคิดค้นสิ่งใหม่ นำความเจริญให้ประเทศเขาแต่เรากำลังล้าหลังในทุกๆด้าน ถ้าเราเปิดใจกว้าง ไม่เป็นกบน้อยในกะลา เราจะรู้ว่าเราต้องปรับปรุงและพัฒนาอีกเยอะ เทคโนโลยีที่ทั้งโลกกำลังใช้ประโยชน์มันกำลังจะไล่ล่าประเทศที่ปรับตัวไม่ทันและไม่คิดปรับตัว


ภาพ AFP



ในโอกาสครบรอบ 12 ปีนี้ ผมขอเปิดอกว่าผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นผมต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัวผม ที่พ่อแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตลอด ต้องมาพรากจากกัน ผมเสียใจที่คนที่รักผม สนับสนุนผมถูกรังแก แต่คงไม่เสียใจเท่าประเทศที่ผมรัก แผ่นดินที่ผมเกิด และเติบโตมา ซึ่งครั้งหนึ่งได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ต้องมาตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ ถึงแม้ว่าผมมีอายุที่กำลังก้าวเข้าปีที่ 70 แล้ว แต่ผมเสียดายประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 12 ปีที่ออกมา ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ 12 ปี แล้วยังไม่ลืมผม ยังส่งผ่านความรักความปรารถนาดีมาถึงกันเสมอมา สุดท้ายนี้ผมขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่ให้ร้ายกลั่นแกล้งผมมา ณ ที่นี้ด้วย”



โพสต์นี้จะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับแวดวงการเมืองของบ้านเรา โดยเฉพาะในวันที่ 19 ก.ย. ที่เป็นวันครบรอบ 12 ปี รัฐประหาร ก.ย. 2549 อย่างไรบ้าง โปรดติดตาม