ตร.ไม่นำหนุ่มลาวปาดคอ 2 ศพทำแผน จำลองพฤติการณ์ในห้องประชุมแทน ด้านผู้ต้องหาลั่นไม่ไปขอขมาศพผู้เสียชีวิต ร่วมถึงญาติเกรงเรื่องความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ควบคุมตัวนายพูล้า สัญชาติลาว ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าปาดคอ นางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 67 ปี และ ด.ญ.อิสห์ยา อายุ 12 ปี เสียชีวิต และ ด.ญ.อาภารัตน์ อายุ 9 ขวบ ได้รับบาดเจ็บ มาจำลองเหตุการณ์ภายในห้องประชุมชั้น 5 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยเป็นการจำลองการใช้มีดกับเหยื่อที่เป็นทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้เพราะจากการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในซอยเพชรหึงษ์ 23 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เพราะญาติและชาวบ้านในพื้นที่มีความโกรธแค้นผู้ต้องหาเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้จากการจำลองพฤติการณ์หลังปาดคอนางมะลิแล้ว เป็นจังหวะที่ ด.ญ.อิสห์ยา และ ด.ญ.อาภารัตน์ ตื่นมาเห็น จึงเข้าไปบีบคอ ก่อนใช้มีดปาดคอทั้งคู่ และหยิบทรัพย์สินของผู้ตายวิ่งหนีออกทางหน้าบ้าน /ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามถึงเหตุจูงใจหรืออยากกล่าวอะไรกับครอบครัวผู้ตายหรือไม่ แต่นายพูล้า ได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบคำถาม
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ์ เฉลิมศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยตำรวจภูธรภาค 1 ได้แถลงพฤติการของผู้ต้องหาตั้งแต่ก่อเหตุ เส้นทางหลบหนี และจุดที่นำสร้อยคอทองคำของผู้ตายไปขายที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ก่อนถูกจับกุมที่ริมแม่น้ำโขง ชุมชนนาโป อ.เมือง จ.มุกดาหาร ซึ่งการสืบสวนสอบสวนคดีนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาติดตามจับกุมผู้ต้องหาภายใน 16 ชั่วโมงเศษ สาเหตุที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ เนื่องจากเกรงเรื่องของความปลอดภัยของผู้ต้องหา จึงใช้การจำลองพฤติการณ์ของผู้ต้องหาในห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการแทน ทั้งนี้สาเหตุที่คนร้ายเลือกก่อเหตุที่บ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากเป็นบ้านที่คุ้นเคย ตั้งใจเข้ามาชิงทรัพย์ โดยขณะก่อเหตุคนร้ายอ้างว่าเสพยาเสพติด แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจร่างกายอีกครั้ง เบื้องต้นการตรวจปัสสาวะพบว่าเปลี่ยนสี
ส่วนเรื่องของการนำตัวผู้ต้องหาขอขมาศพของผู้เสียชีวิตนั้น พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ต้องหาก่อน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดคลิปวิดีโอที่จับภาพของพูล้า ขณะกำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยไม่มีท่าทางลุกลี้ลุกลนหรือกังวลใจแต่อย่างใด ซึ่งนายพูล้าต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าอำพรางตำรวจก่อนทำการหลบหนีออกจาก กทม.
สำหรับข้อหาที่ตำรวจแจ้งกับนายพูล่า เบื้องต้น 5 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์ ความผิดตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ และเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยการอนุญาติสิ้นสุด ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่า มีการเสพสารเสพติด หากผลการตรวจร่างกายพบสารเสพติดก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป อย่างไรก็ตามตำรวจได้นำตัวนายพูล้าไปฝากที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี ล่าสุดนายพูล่า ยืนยันกับตำรวจว่า จะไม่ไปขอขมาร่างผู้เสียชีวิต ร่วมถึงญาติด้วย เนื่องจากเกรงเรื่องความปลอดภัย
