"เอิร์ก เลเดอเรอร์ " เปิดใจหลังถูกโยงปมการเสียชีวิต "เก๋ เลเดอเรอร์ " ท้าขุดหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ รับพลาดใช้เงิน 14 ล้านลงทุนธุรกิจร่วมกัน ไม่ได้ทำบัญชีเพราะไว้ใจ ยินดีหากตำรวจเรียกไปให้ปากคำจะได้ปลอดภัยเหตุถูกขู่ทำร้าย ขู่ไม่ให้ไปงานศพ
จากกรณี น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ หรือ เก๋ เลเดอเรอร์ หรือ เก๋ ลาพรีม อายุ 30 ปี นางแบบและ เจ้าของธุรกิจลาพรีมคลินิก กระโดดตึกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีกระแสข่าวว่ามีปัญหากับน้องคนสนิท ถึงขั้นเขียนจดหมายก่อนฆ่าตัวตาย
ล่าสุเมื่อเวลา 14.00น. วันที่ 17 ก.ย. เอิร์ก เลเดเลอร์ น้องคนสนิทของเก๋ ได้ออกมาเปิดใจต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยระบุว่า ตนเองไม่ได้มานั่งแก้ตัว แต่นำหลักฐานทุกอย่างมาประกอบ ยืนยันว่า เป็นหลักประกันที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งวันนี้ตนเองไม่ได้ออกมาฆ่าใคร ไม่พาดพิงใคร เอิร์กกับเก๋รักกันมาก เชื่อว่าเก๋ทำเพราะรักเอิร์กเหมือนกัน อยู่ร่วมกันมา 10 ปี ต่างคนต่างรู้กัน ส่วนประเด็นที่คนสงสัยว่า ทำไมตนไม่ไปงานศพเก๋นั้น เพราะตนเองโดนขู่ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่เคยทะเลาะกับเก๋ และรักกันจนวินาทีสุดท้าย การที่เก๋ให้ข่าวว่าไม่ได้คบกันตั้งแต่เดือนเม.ย. 2560 ตนเองไม่ทราบว่าเก๋มีเหตุผลอะไร และทำไมถึงพูดแบบนั้น
เอิร์ก เลเดเลอร์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เก๋ระบุว่า มีคนใกล้ชิดโกงเงินไป 14 ล้านบาทนั้น ยอมรับว่า เงิน 14 ล้านบาท เป็นเงินที่ลงทุนทำธุรกิจ ความงามและเงินที่ได้จากธุรกิจร่วมกัน ซึ่งเอิร์กกับเก๋ ใช้เงินบัญชีเดียวกันและไว้ไจกัน จึงไม่ได้ทำบัญชีชัดเจน ตนยอมรับว่าพลาดในจุดนี้ ในช่วงหลังเก๋เป็นคนขอแยกสาขา โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากให้เอิร์กเหนื่อย เพราะเอิร์กหาเงินมาเยอะแล้ว จากนั้นมีผู้มาถือหุ้นสาขาที่รามอินทราใหม่แทนเอิร์ก คือ ครอบครัวของแฟนเก๋
เอิร์ก เลเดเลอร์ ยังมองว่า เหตุที่ทำให้เก๋เครียด เป็นเพราะครอบครัวแฟนจับแยกกับเอิร์กหรือไม่ ซึ่งหากเก๋จะฆ่าตัวตายเพราะเอิร์กจริง ทำไมไม่ทำตั้งแต่ยังอยู่ด้วยกัน หรืออาจเป็นไปได้ว่า การที่เก๋ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกผิดกับเอิร์กหรือเปล่า โดยตนเองก็ไม่ฟันธงในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าระหว่างเก๋กับเอิร์ก ไม่เคยคิดว่าจะเกลียดกัน เพราะสู้มาด้วยกัน
ส่วนเรื่องจดหมายลาตายนั้น ยืนยันว่ามีจริง แต่ตนเองไม่รู้ว่าเก๋โดนบังคับเพือสร้างเรื่องหรือไม่ ซึ่งตนเองได้อ่านแล้ว ยอมรับเป็นลายมือของเก๋จริง แต่จะโดนบังคับหรือไม่ ตนไม่ทราบ ส่วนคอมพิวเตอร์ กับโทรศัพท์ของเก๋ที่หายไปนั้นตนเองไม่ทราบเช่นเดียวกัน เพราะไม่สามารถเข้าไปในคลินิกสาขารามอินทราได้ นอกจากหุ้นส่วนเท่านั้น และตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าจดหมายฉบับจริงอยู่ที่ไหน เพราะตนเองได้รับมาเป็นเพียงรูปถ่าย อย่างไรก็ตาม พร้อมพิสูจน์ทุกอย่าง และยินดีที่จะให้รื้อข้อมูลแชทไลน์ที่คุยกันทั้งหมด พร้อมท้าให้ขุดหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ก็ยินดีหากตำรวจเรียกไปให้ปากคำ พร้อมระบุว่า ตนเองจะได้ปลอดภัยด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกขู่ทำร้าย