“น้องแบม” น้อยใจ “ลุงตู่” ไม่ทำตามสัญญา

2018-08-30 17:50:47

“น้องแบม” น้อยใจ “ลุงตู่” ไม่ทำตามสัญญา

Advertisement

“น้องแบม” ที่เคยเปิดโปงขบวนการโกงเงินคนจน เผยน้อยใจที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไม่รับเข้าทำงานหลังเรียนจบปริญญาตรีตามที่เคยรับปากไว้กับนายกรัฐมนตรี



น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม อายุ 23 ปี ที่เคยเปิดโปงขบวนการโกงเงินคนจน ขณะเข้าฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น กระทั่งกลายเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสนใจ และ สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ตรวจสอบการทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม.ทั่วทั้งประเทศ




จากนั้นหลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างพากันยกย่อง และมอบรางวัลต่างๆ มากมายให้กับน้องแบม รวมถึงการให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และรับเข้าทำงานตามที่ต้องการ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณงามความดีที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศ





ล่าสุด น้องแบม เปิดเผยว่า เรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามแล้ว จากนั้นทางมหาวิยาลัยรังสิต ประสานงานมาเรื่องการให้ทุนเข้าเรียนต่อปริญญาโทตามที่เคยแจ้งไว้ ปัจจุบันกำลังเรียนปริญญาโทเทอมแรก ที่วิทยาลัยนวัตกรรม สาขาผู้นำสังคม ธุรกิจและการเมือง มหาวิทยาลัยรังสิต

ส่วนการทำงานตามที่ภาครัฐและเอกชนเคยบอกไว้นั้น ขณะนี้โรงแรมโฆษะขอนแก่นได้รับเข้าทำงานแล้ว ส่วนกระทรวง หรือหน่วยงานราชการ ที่เคยแจ้งไว้ว่าจะรับเข้าทำงานนั้นได้รับการติดต่อจากค่ายประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี เพื่อรับเข้าทำงาน แต่เนื่องจากปัจจุบันสุขภาพของบิดา มารดาไม่แข็งแรง บิดาต้องเดินทางไปพบแพทย์บ่อยครั้ง อีกทั้งตนเองมีความตั้งใจอยากเป็นนักพัฒนาช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากไร้ตามชนบท จึงไม่ได้เข้าทำงานตามที่ถูกเรียกตัว





ขณะเดียวกันได้ติดต่อไปยังกระทรวง พม.ตามที่เคยรับปากไว้ว่าจะรับเขาทำงานหลังจากเรียนจบ แต่คำตอบที่ได้คือ ถ้ามีประกาศรับสมัครคนเข้าทำงานให้สมัครเข้ามาตามขั้นตอน และสอบตามขั้นตอน ทำให้รู้สึกว่าผู้ใหญ่ไม่ทำตามคำสัญญาที่เคยรับปากไว้ต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้รู้สึกน้อยใจ

ขณะที่ชีวิตความเป็นอยู่ในขณะนี้ต้องอยู่อย่างระมัดระวังตัวกว่าเดิม เคยถูกข่มขู่ทั้งตัวเองและครอบครัว ทำให้เสียขวัญกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ปัจจุบันการข่มขู่จากเสียงที่มองไม่เห็นไม่มีมานานแล้ว แต่ยังคงต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเหมือนเดิม เพราะไม่รู้ว่าในสังคมที่พบเจอมีใครเป็นมิตรหรือแอบแฝงอะไรอยู่