เขื่อนกักน้ำในเมียนมาแตก ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลบ่าทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้าน บางพื้นที่ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนกว่า 5 หมื่นคน
ถึงคราวเมียนมาเจอเข้าแล้ว โดยเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.ของวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 06.00 น.ตามเวลาในไทย เขื่อนสวาร์ แตก ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนต่าง ๆ จมบาดาลสูงกว่า 2 เมตร ทางการเมียนมาอพยพประชาชนมากกว่า 50,000 คน ออกจากบ้านเรือนในภาคกลางของประเทศ นอกจากนี้ ยังทำลายสะพานแห่งหนึ่งบนถนนหลางสายสำคัญได้รับความเสีย สำนักงานดับเพลิงเมียนมา ได้ส่งทีมกู้ภัยไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว เบื้องต้นพบว่า ไหลทะลักเข้าท่วมเมืองสวาร์ (Swar) และอีกหลายเมือง โดยมวลน้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมในช่วงบ่ายวานนี้ แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับสะพานที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งสะพานแห่งนี้เชื่อมต่อถนนไปยังเมืองสำคัญอื่นๆ ของเมียนมา ทั้งกรุงย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์และกรุงเนปิดอว์ ที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งนาที่ถูกน้ำท่วมสูง
รายงานข่าวระบุว่า ระดับน้ำสูงถึง 2.4 เมตร ในหมู่บ้านคะยุน ดอว์ ซู ซึ่งเป็นหมู่บ้านแรกที่รับมวลน้ำ ยังมีเมืองสวาร์ และหลายพื้นที่ของเมืองเยดาเช ถูกน้ำท่วมสูงเป็นบริเวณกว้างสุดลูกหูลูกตา มี 12,000 ครัวเรือน รวมประชาชนทั้งสิ้น 54,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ เหตุการณ์เขื่อนแตกครั้งนี้ ยิ่งจุดชนวนให้เกิดความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยของเขื่อนกักน้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว ก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้ เมื่อเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย แขวงอัตตะปือ ของสปป.ลาว พังถล่ม ทำให้น้ำท่วมหลายหมู่บ้าน ประชาชนหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัยและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 ราย
