พบพิรุธ! แหม่มอังกฤษ อ้างถูกข่มขืนบนเกาะเต่า

2018-08-27 17:40:26

พบพิรุธ! แหม่มอังกฤษ อ้างถูกข่มขืนบนเกาะเต่า

Advertisement

พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี บินด่วนลงพื้นที่เกาะเต่าติดตามและหาหลักฐานกรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอ้างถูกข่มขืนบนเกาะเต่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบหลักฐานว่ามีการข่มขืนจริงหรือไม่ พบเพียงความเคลื่อนไหวของนักท่องเที่ยวสาวรายนี้มากับเพื่อนชาย ก่อนที่แฟนหนุ่มจะบินตามมา ซึ่งอาจเป็นการสร้างเรื่องเพื่อปิดบังบางอย่างต่อแฟนหนุ่มชาวอังกฤษ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี(ผบก.ภ.จว.)พร้อม พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 4 (ผบ.บชร.4)และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์บินด่วนไปยังสนามหน้าที่ว่าการ อ.เกาะพะงัน (ส่วนหน้าเกาะเต่า) ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมตำรวจท่องเที่ยว ,ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , นายไชยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรี ต.เกาะเต่าและผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า ซึ่งเป็นสถานที่ น.ส.อีสเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ อายุ 19 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ อ้างว่าเดินทางมาท่องเที่ยวกับเพื่อนชายชาวยุโรป ได้ถูกวางยาจนไม่รู้สึกตัวเเละข่มขืน หลังจากนั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งเหตุเกิดคืนวันที่ 25 มิ.ย. 61 โดยไปแจ้งกับตำรวจ สภ.เกาะพะงัน เเต่ตำรวจไม่ลงข้อมูลเรื่องการข่มขืนเพียงลงว่า โทรศัพท์ไอโฟน 7พลัส กับเงินสด 3,000 บาทและบัตรเดบิต จำนวน 4 ใบหายไป

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อภิชาติและคณะไปตรวจดูกล้องวงจรปิดบริเวณแหลมหิน จปร.หาดทรายรี เป็นสถานที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกข่มขืน ซึ่งห่างจากร้านฟิชโบลว์บาร์ และลีโอบาร์ หาดทรายรี ที่ไปเที่ยวดื่มกินกับเพื่อนชายประมาณ 400 เมตร พบว่ามีกล้องวงจรปิด 7 ตัว เก็บบันทึกภาพได้ 7 วัน ล่าสุดคือช่วงวันที่ 28 มิ.ย.- 4 ก.ค.61 ส่วนก่อนนี้ได้ถูกบันทึกทับไปแล้ว




พล.ต.ต.อภิชาติ ได้สอบถาม น.ส.ภัทรา แจ่มตระกูล อายุ 32 ปี เจ้าของที่พักเดอะไฮ โฮสเทล(THE HIVE) ที่ผู้เสียหายเข้าพัก ให้ข้อมูลว่า น.ส.อีสเบล ได้จองที่พักไว้วันที่ 21-23 มิ.ย.61 แต่ได้ขอขยายเวลาต่อถึงวันที่ 26 มิ.ย.61 โดยพักในที่เดียวกันรวม 5 คน มี น.ส.อีสเบล กับเพื่อนชายอีก 4 คน โดยคืนวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.อีสเบลกับกลุ่มเพื่อนทั้ง 5 คนได้นัดกับตนไว้ให้พบกันที่ร้านฟิชโบลว์บาร์ตอน 5 ทุ่ม พอถึงเวลาไม่เห็นมาตามนัดตนเข้าใจว่าคงไปเที่ยวกันเองตนจึงกลับมาก่อน เพราะปกติกลุ่มนี้จะกลับที่พักตอนตี 2 ทุกคืน

น.ส.ภัทรา กล่าวว่า ช่วงเช้า น.ส.อีสเบล มาบอกว่า ถูกวางยาในเครื่องดื่มและถูกข่มขืนบริเวณแหลมหิน จปร. และเอาทรัพย์สินไป ตนจึงได้แนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ น.ส.อีสเบล อ้างว่าจะรีบไปเกาะพะงันไปพบแฟนหนุ่มกับเพื่อนชาวอังกฤษที่มางานฟูลมูนปาร์ตี้ ซึ่งตนพยายามคะยั้นคะยอให้ไปแจ้งความก่อนแต่ก็ไม่ไป และตนเองไม่ได้ติดตามเรื่องเพราะไม่แน่ใจเกิดเหตุจริงหรือไม่ เนื่องจากเขามักจะออกไปดื่มเที่ยวกินกลับช่วงเวลาดังกล่าว



“กระทั่งวันที่ 4 ก.ค.เพื่อนชายคนสนิทชื่อนายมาติน ได้มาปรึกษากับตนว่ายังสามารถแจ้งความให้ น.ส.อีสเบล ได้หรือไม่ จึงได้พานายมาร์ตินไปที่ สภ.เกาะเต่า ซึ่งตำรวจไม่สามารถรับแจ้งได้เนื่องจาก น.ส.อีสเบล ไม่ได้มาด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณที่อ้างว่าเป็นจุดเกิดเหตุ พบว่ากล้องเก็บข้อมูลได้เพียง 7 วันและทราบว่าในคืนวันที่ 26 มิ.ย. นายมาร์ติน ได้ชกต่อยกับแฟนของ น.ส.อีสเบล ที่เกาะพะงัน จนทำให้ฟันหน้าบิ่นแตกหัก ” น.ส.ภัทรา กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย.ที่ผู้เสียหายพักอยู่กับเพื่อนชายอีก 4 คนที่เกาะเต่าได้มีสัมพันธ์กับเพื่อนชายคนสนิทคนหนึ่ง โดย น.ส.อีสเบล บ่นกับ น.ส.ภัทรา ว่ารู้สึกผิดกับการกระทำดังกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.อภิชาติ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยัง สภ.เกาะพะงัน เข้าตรวจสอบหลักฐานการลงบันทึกประจำวัน โดย ร.ต.อ.กฤษฎา ทองสกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.61น.ส.อีสเบล เดินทางมากับเพื่อนชาย(นายมาร์ติน) ขอแจ้งความทรัพย์สินสูญหาย แต่ตนแจ้งว่า ไม่สามารถแจ้งความได้ เนื่องจากอยู่นอกพื้นที่เกิดเหตุ แต่ทางผู้เสียหายยืนยันว่า ขอแจ้งความเพื่อไปเคลมประกันเท่านั้น จึงได้อำนวยความสะดวกให้ลงบันทึกประจำวัน ซึ่งในวันนั้นตลอดเหตุการณ์เกือบทั้งหมด เพื่อนชายคนนี้จะเป็นคนพูดแทนผู้เสียหาย ทั้งที่ผู้ที่ลงชื่อแจ้งบันทึกเป็นผู้หญิง



พล.ต.ต.อภิชาติ เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่ง ที่ 817/2561 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจข้อเท็จจริง โดยมี พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นประธาน ให้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อให้ได้ความว่า มีเหตุการณ์จริงหรือไม่อย่างไร ถ้าจริงให้แจ้งไปยังผู้เสียหายหากต้องการดำเนินคดีให้มอบอำนาจให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ ซึ่งไม่ว่ามีความผิดเกิดขึ้นหรือไม่จะสั่งให้คณะกรรมการลงมารวบรวมพยานหลักฐานเป็นสำนวนไว้

พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ประสานฝ่ายปกครองในพื้นที่ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มขวด ให้กวดขันจับกุมประเภทที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย การประกอบอาชีพผิดกฎหมายของชาวต่างขาติ สถานบริการ แหล่งมั่วสุมทุกประเภท โดยให้จัดกำลังตรวจชายหาดสถานที่ท่องเที่ยวตลอด24 ชั่วโมง โดยขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอาสาสมัคร ชุดเดินเท้า และขอให้ผู้ประกอบการช่วยดูแลนักท่องเที่ยว

“ พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ชี้แจงยืนยันว่ามีการแจ้งเฉพาะเรื่องทรัพย์สินสูญหาย จึงให้ พ.ต.อ.สถิต คงเนียน ผกก.สภ.เกาะพะงัน ตั้งชุดตรวจสอบว่า ผู้เสียหายมาอยู่ที่เกาะพะงันกับใครมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง และมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกาะเต่าบ้างหรือไม่ หากเป็นเรื่องกระทำอนาจารจะต้องแจ้งความร้องทุกภายใน 3เดือน ถ้าไม่เป็นความจริงจะดูตามหลักฐานที่ปรากฏรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป ” พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าว

พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวและว่า ยืนยันว่าในห้วง 4 ปีนี้ไม่มีคดีเหตุการณ์ร้ายกับนักท่องเที่ยว อาจจะมีแต่เรื่องอุบัติเหตุซึ่งที่ผ่านมาจะมีการตรวจสอบโดยละเอียดร่วมกับฝ่ายปกครอง ซึ่งเคยแถลงไปหลายครั้งแล้วว่า หลายเรื่องที่ให้ร้ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไม่เป็นความจริง และครั้งนี้จะติดตามอยู่ว่าเป็นความจริงหรือไม่ จึงอยากให้ผู้เสียหายเดินทางกลับมาแจ้งความภายใน 3 เดือนหลังเกิดเหตุเพื่อความรวดเร็วและชัดเจนขึ้น