ฉีกแนว!! ทริปเขาใหญ่...พักเต็นท์ติดแอร์หรูหราหมาเห่า "LALA MUKHA TENTED RESORT"

2018-08-28 12:10:37

ฉีกแนว!! ทริปเขาใหญ่...พักเต็นท์ติดแอร์หรูหราหมาเห่า "LALA MUKHA TENTED RESORT"

Advertisement

นานๆ ทีคนกรุงอย่างเราจะได้มีโอกาสพักผ่อนสบายๆ ในวันหยุดกับเขาบ้าง เพราะว่างทีไรเป็นต้องมีงานเข้าอยู่ร่ำไป ให้ตายเถอะ !! ยิ่งอยู่ในช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว เรื่องวางแผนไปพักตรงนั้นตรงนี้นี่เลิกคิดไปได้เลย เพราะถ้าไกลไปอาจล้าพลังร่างกายอ่อนเพลีย แต่ถ้าใกล้ๆ กรุงเทพฯ ล่ะ คงไม่ต้องสืบเลยว่า ไปที่ไหนดี เพราะฉะนั้นตามเรามาสูดอากาศเที่ยวธรรมชาติ รับลมเย็นเล่นน้ำฝน แถมนอนเต็นท์เท่ๆ ได้บรรยากาศไม่เหมือนที่อื่นหวนให้คิดถึงตอนเข้าค่ายสมัยเรียนลูกเสือ-เนตรนารี กันที่ "LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI"



โดยทริปนี้ Traveloka (ทราเวลโลก้า) ผู้ให้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ชั้นนำ (Online Travel Agency หรือ OTA) และยังเป็นอันดับหนึ่ง บริษัทด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดกิจกรรม “Traveloka พาเที่ยว นอนฟิน กินฟรี ทริปนี้ที่ LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI”






โดยได้พาสื่อมวลชนร่วมทริปเขาใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตใกล้กรุงเทพฯ ในช่วงกรีนซีซั่นนี้ พร้อมสัมผัสประสบการณ์นอนเต็นท์ซาฟารีแบบ Glamping เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ณ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นการจัดทริปพาสื่อมวลชนไปเที่ยวเป็นครั้งแรกของ Traveloka





ซึ่งทริปดังกล่าวนี้ เราได้เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2018 ประมาณ 9 โมงเช้า มุ่งตรงสู่เขาใหญ่ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากทริปนี้เน้นเรื่องกิน ฟินเรื่องพักผ่อน ดังนั้น สถานที่แรกที่เราทำการเช็กอินคือ ร้านจันผา เขาใหญ่ (Krua Janpa Restaurant) ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังในเขาใหญ่ไม่ว่าใครได้มาเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะแวะลิ้มรสชาติความอร่อยเด็ดขาด






ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ตั้งอยู่ริมถนนธนะรัชต์ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น บริการอาหารไทยรสชาติต้นตำรับแท้ๆ บริการอาหารไทย อีสาน ซีฟู้ด อาหารป่า บรรยากาศดีใกล้ชิดติดธรรมชาติใกล้เขาใหญ่

ที่ตั้ง : 336 หมู่ 4 ถนนธนะรัชต์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130

โทรศัพท์ : 0-4429-7490 , 0-4429-7491



วันเวลาเปิด-ปิด : 11.00 - 22.00 น.

การเดินทาง : ใช้ถนนธนะรัชต์มุ่งหน้าเขาใหญ่ ร้านครัวจันผา ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 18.5 ติดถนนธนะรัชต์ ห่างจาก Palio และ The Greenery Resort ประมาณ 1 กิโลเมตร

เมนูแนะนำ : ปลาเผาแม่ลา, ยำถั่วพู, กุ้งแช่น้ำปลา, จันผาสองหน้า, น้ำพริกปลาช่อนย่าง, พะแนงกุ้ง, ผัดฉ่าทะเล





หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็มุ่งตรงสู่ที่พักและเพื่อให้สื่อมวลชนทุกท่านได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในรูปแบบประสบการณ์ที่แตกต่าง ที่พักจึงเป็นแบบ Glamping หรือที่พักแบบเต็นท์หรูติดแอร์ ณ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ ที่ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นผสานกลิ่นอายซาฟารีอย่างลงตัว โดยในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน นี่จึงเป็นที่พักอีกรูปแบบหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติและดื่มด่ำการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบภายในเต็นท์หรูไปพร้อมกัน



ทั้งนี้ ห้องพักของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 3 โซน โดยเริ่มต้นจาก โซน อีโค ซาฟารี เต็นท์ส (Eco Safari Tents) ห้องพักเต็นท์แบบอีโค จะเป็นห้องน้ำรวม แต่สะดวกสบายพอควรมีเครื่องใช้จำเป็นพร้อมสรรพ แต่ถ้าแขกมาพักเยอะๆ อาจไม่เพียงพอกับความต้องการ


อีโค ซาฟารี เต็นท์ส (Eco Safari Tents) เตียงใหญ่ดี มีแอร์ นอนหลับสนิท


ห้องน้ำแบบรวมที่แยก ชาย-หญิง ชัดเจน โอ่อ่าอากาศระบายดี (มีเสือเดินผ่านด้วย อิอิ)


จะอาบน้ำแบบเอาต์ดอร์ก็ไม่ว่ากัน ถ้าหุ่นคุณนั้นน่าอภิรมย์


ถ่ายเบาสบายๆ ปลอดโปร่งโล่งลมเย็น

แบบที่ 2 ดีลักซ์ ซาวานนา เต็นท์ส (Deluxe Savanna Tents) ห้องพักเต็นท์ที่มีห้องน้ำในตัว เพื่อความเป็นส่วนตัว ลักษณะภายในเป็นเตียงเดี๋ยวแต่ใหญ่ไซส์บิ๊กบึ้มนอนได้สองคนแบบพอดีพอขยับเนื้อขยับตัวได้ แต่ที่เด่นกว่าแบบแรก (อีโค ซาฟารี เต็นท์ส) ตรงที่มีห้องน้ำโอ่โถงสะดวกสบายในตัว เรียกว่า "เริ่ด"
 


ดีลักซ์ ซาวานนา เต็นท์ส (Deluxe Savanna Tents) 



ภายในห้อง Deluxe Savanna Tents 

และแบบสุดท้าย ลอฟต์ ทรี เฮาส์ (Loft Tree House) บ้านต้นไม้ยกสูงมีใต้ถุนไว้อิงเอนกายผ่อนคลายฟังเสียงนกน้อยๆ ที่เหมาะสำหรับนักเดินทางแบบครอบครัว ต้องการความเป็นส่วนตัว จะส่งเสียงดังแค่ไหนคงไม่มีใครเดินมาว่า เพราะตั้งอยู่ห่างกันเป็นสัดส่วนเอามากๆ เห็นมีเด็กๆ ที่ครอบครัวพามาพักวิ่งเล่นกันรอบบ้านน่ารักดี



ลอฟต์ ทรี เฮาส์ (Loft Tree House) บ้านต้นไม้อาณาเขตยิ่งใหญ่ อลังการงานสร้าง
 

ภายในบ้านต้นไม้สไตล์ครอบครัว เตียงใหญ่ไซส์ 2 คน ด้านหลังมีอ่างจากุซซี่


ใต้หลังคามีอีก 2 เตียง เด็กๆ ไม่ต้องตีกัน มันดีมากๆ


อ่างจากุซซี่ หลังเตียงนอน 


ห้องน้ำในตัว แสนสะดวก แต่อาจคับแคบไปสำหรับใครที่ตัวใหญ่หน่อย




หลังจากที่ทุกคนเดินชมวิวทิวทัศน์และนำสัมภาระเก็บเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ในช่วงบ่ายเราก็ได้เก็บภาพเก๋ๆ ในมุมสุดชิคลงโพสต์อวดเพื่อนในโซเชียลแล้ว แถมทริปนี้เรายังได้ไปร่วมทำกิจกรรมสร้างสีสัน ด้วยการทำกระเป๋าผ้ารักษโลก D.I.Y. กับทาง TravelokaTH อีกด้วย



ซึ่งไม่เพียงแค่ลงมือทำกิจกรรมเท่านั้น ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติการงานศิลป์ คณะของทาง TravelokaTH ยังเตรียมเรื่องราวดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง เริ่มที่ คุณอเล็กซ์ ได้เล่าประวัติความเป็นมาของบริษัท รวมถึงแนวทางการปฏิบัติงานในอนาคต ... นับว่าเป็นผู้บริหารหนุ่มที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลคนหนึ่งเลยทีเดียว 


คุณอเล็กซ์ ณัฐพล กาญจนะวรนันท์ ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง เมเนเจอร์ แห่ง ทราเวลโลก้า


งานศิลเปรอะ จากคนที่มีศิลปะ 


เพลินกับของว่างระหว่างลงมือทำกระเป๋า แต่ดูจริงจังกว่างานก็เรื่องทานนี่แหละ




ซึ่งหลังจากได้ร่วมทำกิจกรรม D.I.Y. สุดแนวเรียบร้อยแล้ว ท้องก็ร่ำร้องขออาหารแทบจะทันใด ทำให้รู้ว่าถึงเวลาของมื้ออาหารค่ำสักที ทีมงานได้นัดเจอกับพวกเรา ที่ Jabulani และที่นี่เป็นห้องอาหารเพียงหนึ่งเดียวของ Lalamukha Tented Resort ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน พวกเรานั่งกันสบายๆ ด้านนอกมองออกไปเห็นภูเขารางๆ ในนี้มีอาหารให้เลือกอร่อยกันมากมาย ทั้งสดใหม่ กลิ่นหอมยั่วน้ำลายสุดๆ แต่ไหนๆ มาชิลล์ที่เขาใหญ่ทั้งที ก็ต้องจัดซี่โครงหมูย่างหมักซอสสูตรพิเศษ กับบาร์บิคิว หลากสไตล์ อุ๊ย !! จัดไปหลายชิ้นเลยทีเดียว อายจัง ...




บรรยากาศโดยรอบเวลาพลบค่ำ

โดยขณะรับประทานอาหารอย่างเพลิดเพลินเดินตักกันมันไปเลย ทางทีมงานยังมีกิจกรรมให้ร่วมลุ้นเพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การตอบรับ Traveloka อย่างดีเสมอมา นอกจากทริปนี้ เราจะพาทุกท่านกินฟรี นอนฟินแล้ว ยังมีกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ร่วมสนุกพร้อมจับสลากเล่นเกมเพื่อชิงรางวัลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท อาทิ ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ จาก มาเลเซีย แอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) บัตรของขวัญแทนเงินสดจองตั๋วเครื่องบินและที่พักจาก Traveloka และของที่ระลึกอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้นจึงแยกย้ายกันเข้าที่พัก





ใครตื่นเช้าก็มาร่วมทานอาหารที่จัดไว้รับรอง เรียบง่ายอิ่มสบายๆ 



ก่อนเดินทางกลับทีมงานจอดให้ลงซื้อของฝาก ที่ เดอะ เบอร์เดอร์ส ลอดจ์ คาเฟ่ โซนตลาดนัดโรงนา เปิดเฉพาะ ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ 

หนึ่งในแลนด์มาร์กที่ต้องแวะให้ได้ “The Birder’s Lodge Café” คาเฟ่สุดเก๋ด้วยอาคารรูปทรงแปลกตา จัดพื้นที่ในร้านแบ่งเป็นโซนๆ มีทั้งแบบอินดอร์ และเอาต์ดอร์ อากาศด้านนอกลมเย็นเบาๆ แต่ถ้าหน้าร้อนละก็เข้าข้างในไฉไลสุด สั่งเครื่องดื่ม Cotton Candy Kiwi Italian Soda ออนท็อปด้วยสายไหม รสชาติก็ทั่วๆ ไป เก๋ตรงสายไหมนี่ล่ะ นอกจากคาเฟ่สุดเก๋แล้วที่นี่ยังมี The Birder’s Lodge Farmer’s Market เป็นอาคารหลังใหญ่สะดุดตา เพราะมีไม้เลื้อยปกคลุมตัวอาคารแทบทั้งหมดเลย เก๋จุง เป็นตลาดนัดในโรงนา มีจำหน่ายสินค้า Helathy ผลิตผลจากเกษตรกรท้องถิ่น สินค้าแปรรูปจากชุมชน อาทิ พืชผักผลไม้ออร์แกนิก ต้นไม้ ผ้าขาวม้า กระเป๋า สบู่ ฯลฯ พ่อค้าแม่ค้าก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ในส่วนของตลาดนัด จะเปิดเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลาประมาณ 10.00-17.00 น. แถมที่นี่ยังมีที่พัก “บ้านไม้สไตล์กระท่อม” แบบยุโรป ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้และขุนเขาด้วย พิกัด ตั้งอยู่ ณ ถนนกุดคล้า-ผ่านศึก ต.หมูสี อ.ปากช่อง อยู่ทางเดียวกับ Primo Piazza กับ ร้านเป็นลาว


ภายในร้าน The Birder's Lodge Cafe (BL Cafe & Grill)