ค้าน! ไม่พกใบขับขี่ปรับ 5 หมื่นคุก 3 เดือน

2018-08-22 12:00:12

ค้าน! ไม่พกใบขับขี่ปรับ 5 หมื่นคุก 3 เดือน

Advertisement

รุมค้านหัวชนฝา หลังกรมการขนส่งทางบก แก้กฎหมายเพิ่มโทษขับรถไม่พกใบขับขี่ เจอโทษปรับ 5 หมื่น จำคุก 3 เดือน


ภาพ chalermphon_tiam / Shutterstock.com



จากกรณีที่กรมการขนส่งทางบก เสนอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 โดยปรับเพิ่มโทษสำคัญใน 3 มาตรา ประกอบด้วย

1.มาตรา 64 ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แต่กฎหมายใหม่เสนอให้ปรับเพิ่มโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท




ภาพ driving-in-thailand.com

2.มาตรา 65 ขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่กฎหมายใหม่เสนอให้เพิ่มโทษจำคุกเข้ามาด้วย คือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ส่วนโทษ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท

3.มาตรา 66 ขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ตามกฎหมายใหม่ เสนอให้ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท





และทันทีที่มีประเด็นนี้ออกมา ทีมข่าว นิว 18 ได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งทุกคนพูดเสียงเดียวกันว่าอยากคัดค้านการแก้กฎหมายฉบับดังกล่าว เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบเนื่องจากโทษรุนแรง และค่าปรับค่อนข้างสูง ซึ่งไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน


ภาพ chalermphon_tiam / Shutterstock.com



ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยืนยันว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการบูรณาการกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 เข้าด้วยกัน เพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแล รวมทั้งเร่งปรับปรุงรายละเอียดของกฎหมายให้ทันสมัย และสอดคล้องพฤติกรรมขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากขึ้น โดยร่างกฎหมายฉบับแก้ไข ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ


ภาพ pdsci / Shutterstock.com

สำหรับการแก้ไขกฎหมายด้านการขนส่งครั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้ปรับเพิ่มบทลงโทษกรณีผู้ขับขี่กระทำผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ เพื่อให้ผู้ขับขี่เข็ดหลาบ ไม่กล้าทำความผิด หรือฝ่าฝืนกฎหมายอีก รวมทั้งให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนลงได้