การศึกษาเผยเมื่อวันอังคารว่าภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจากมนุษย์บวกกับที่เกิดจากธรรมชาติจะยิ่งทำให้โลกนี้ร้อนขึ้นแบบสุด ๆ ในอีก 5 ข้างหน้า
ภาพ VladisChern / Shutterstock.com
นอกจากนี้ การศึกษาที่ตีพิมพ์ลงบนวารสาร Nature Communications ยังระบุด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศจากธรรมชาติและมนุษย์ รวมถึงสิ่งที่เรียกว่าความผันแปรตามธรรมชาติจะยิ่งเพิ่มโอกาสที่น้ำในมหาสมุทรจะร้อนแบบสุด ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดพายุเฮอร์ริเคนและไต้ฝุ่นต่อไป
ฟลอเรียง เซเวแย็ค นักวิทยาศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศจากมหาวิทยาลัยเบรสต์ ประเทศฝรั่งเศสกล่าวว่าความร้อนช่วงระยะนี้ยิ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศในระยะยาวรุนแรงขึ้นอีก และคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะนี้จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อย 5 ปี
ภาพ AFP
เซเวแย็คหาทางแก้ปัญหาโลกร้อนด้วยวิธีที่ต่างออกไป โดยเธอและทีมวิจัยมุ่งศึกษาความผันผวนทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนมากกล่าวว่าเป็น “เสียงรบกวน” ที่ทำให้ไม่ทราบว่าตัวการการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศคืออะไรกันแน่ นอกจากนี้ เซเวแย็คยังใช้วิธีทางสถิติที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยแล้ว แทนที่จะใช้รูปเดิม ซึ่งทำการพยากรณ์ระยะยาวมากกว่า
เซเวแย็คกล่าวว่าเธอและทีมวิจัยได้พัฒนาระบบที่จะทำการพยากรณ์ระยะสั้น และพบว่าช่วงปี 2561-2565 โลกร้อนจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติจะส่งผลกระทบพอ ๆ กับโลกร้อนที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
วิธีการใหม่ของเซเวแย็คและทีมเรียกว่า PROCAST ซึ่งย่อมาจาก PRObabilistic foreCAST และถูกทดสอบแล้วว่ามีความแม่นยำอย่างน้อยก็พอ ๆ กับแบบจำลองมาตรฐาน โดยระบบประมวลผลภายในไม่กี่วินาทีบนแล็ปท็อป แทนที่จะใช้นานหลายสัปดาห์บนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จึงเปิดโอกาสให้นักวิจัยจำนวนมากขึ้นได้พยากรณ์การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ โดยเฉพาะในประเทศที่เข้าถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ยาก
เหล่านักวิจัยตั้งใจว่าจะปรับระบบของพวกเขาให้สามารถพยากรณ์ระดับภูมิภาคได้ และนอกจากจะพยากรณ์อากาศแล้ว ยังเพิ่มให้สามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนและภัยแล้งได้ด้วย