จิตแพทย์ชี้พวกชอบโขว์มีเซ็กซ์ในที่สาธารณะ

2018-08-15 13:30:10

จิตแพทย์ชี้พวกชอบโขว์มีเซ็กซ์ในที่สาธารณะ

Advertisement

จิตแพทย์ระบุชายรักชายมีเซ็กซ์ในที่สาธาณะเป็นความผิดปกติด้านจิตใจ ชอบโชว์ สะท้อนสังคมไทยขาดการเรียนรู้เรื่องเพศที่เหมาะสม แนะครอบครัว สถานศึกษาสอนให้มีเพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบปลอดภัย

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์นิว 18 กรณีที่มีกลุ่มชายรักชายมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะ ว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีปัญหาความผิดปกติด้านจิตใจในลักษณะชอบโชว์ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีความสุขจากการที่ได้ให้คนอื่นเห็นพฤติกรรมทางเพศของตนเอง ซึ่งในแต่ละรายจะไม่เหมือนกัน โดยคนกลุ่มนี้จะไม่มีความสุขทางเพศในวิธีปกติ แต่จะมีความตื่นเต้น ความสุขและความพอใจเมื่อมีคนเห็นพฤติกรรมทางเพศของตนเอง และปัจจุบันมีโซเชียลมีเดียค่อนข้างกว้างขวาง เปิดเผยได้ง่าย ทำให้มีการถ่ายคลิปและเผยแพร่ในกลุ่มของตนเอง



นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นภาพสะท้อนของการที่สังคมไทยขาดการเรียนรู้เรื่องเพศที่เหมาะสมในการที่จะแสดงออกเรื่องเพศ หรือ ขาดการเรียนรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบและปลอดภัย ซึ่งพฤติกรรมทางเพศถือเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ แต่สังคมไทยกลับมองการเรียนรู้เรื่องเพศเป็นเรื่องปกปิด และไม่ได้เปิดให้คนได้เรียนรู้ได้อย่างเปิดเผย ทำให้บางคนต้องไปเรียนรู้เอง ส่วนใหญ่จะเรียนรู้จากเพื่อนในสื่ออินเทอร์เน็ตที่เป็นหนังโป๊ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ให้ความเข้าใจเรื่องเพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบและปลอดภัยอย่างแท้จริง แต่กลับให้ความเข้าใจเรื่องทัศนคติทางเพศผิดๆ เช่น เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในหนังโป๊ เพราะฉะนั้นคนพวกนี้อาจจะดูจากสื่อดังกล่าวและพูดคุยกันเองในกลุ่ม จึงทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ทั้งนี้คนกลุ่มดังกล่าวจะไม่มีการก่อเหตุอันตรายใดๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงการก่อความเดือดร้อนรำคาญในสังคม เช่น การชอบโชว์ อวดอวัยวะเพศ ถ้ำมอง หรือ ขโมยกางเกงใน




นพ.ยงยุทธ กล่าวด้วยว่า การที่สังคมมีการตอบสนองในเชิงให้เห็นว่าไม่ยอมรับการมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะ ถือเป็นส่วนดีที่ทำให้คนพวกนี้จะต้องระมัดระวังมากขึ้นในการแสดงออกในการมีเพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบและปลอดภัยมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือสังคมไทยควรจะปรับปรุงการเรียนรู้เรื่องเพศไม่ว่าจะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง หรือ เพศเดียวกัน เพราะทั้ง 2 อย่าง ปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องปกติ และการที่จะมีเพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบและปลอดภัยได้ จะต้องมีการเรียนรู้ทั้งจากครอบครัวและสถานศึกษา