จับพี่ชายเมายาบุกหาน้องสาวกาวหยอดตาหวังขืนใจ

2018-08-14 23:10:14

จับพี่ชายเมายาบุกหาน้องสาวกาวหยอดตาหวังขืนใจ

Advertisement

รวบพี่ชายหื่นสวมหมวกไหมพรมบุกจับน้องสาวต่างบิดามัดมือมัดเท้า ใช้กาวตราช้างหยอดตา หวังเคลมสวาท เคราะห์ดีเหยื่ออ้อนวอนจนเปลี่ยนใจ ก่อนฉกไอโฟนหลบหนีไป สารภาพเสพยาบ้า ดื่มเบียร์ จนเมาได้ที่จึงเกิดอารมณ์ทางเพศวางแผนเผด็จศึก แม่ลั่นให้ ตร.ดำเนินคดีตามกฎหมาย



เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ร.ต.อ.โรมรัน ศรีไกรภักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์และพยายามจะขืนใจหญิงสาว เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 40/26 หมู่บ้านจอมเทียนการ์เด้นวิลเลจ หมู่ที่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ ให้ทราบเรื่อง ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน



ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว ปลูกสร้างอย่างหรูหราบนเนื้อที่กว่า 118 ตรว.และมีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบ น.ส.นงเยาว์ เทพพิทักษ์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ พร้อมกับให้การว่า บ้านหลังนี้ตนกับสามีชาวต่างชาติร่วมกันซื้ออยู่อาศัยมาหลายปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ตนได้ออกไปทำธุระนอกบ้าน ปล่อยให้ ลูกสาวอายุ 18 ปี ซึ่งเกิดกับสามีคนที่สอง ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เฝ้าบ้านอยู่กับนายมาโนชญ จิตยิ้ม อายุ 29 ปี ลูกชายคนโตซึ่งเกิดกับสามีคนแรก และนายอรรพล สุลัยมาน อายุ 39 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของนายมาโนชญ ที่มาขออยู่อาศัยด้วยในช่วงระหว่างที่มาทำงานตอกเสาเข็มที่เมืองพัทยา





น.ส.นงเยาว์ ยังให้การอีกว่า ปกติแล้วลูกสาวตนพักอยู่ กทม.นานๆ ทีจึงจะกลับมาพักที่บ้านหลังนี้ ส่วนนายมาโนชญ ลูกชายคนโต ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายต่างบิดา กับนายอรรถพล เพิ่งมาขอพักอยู่ด้วยเมื่อไม่กี่วันมานี้ เพราะมีงานตอกเสาเข็มที่เมืองพัทยา โดยในระหว่างตนทำธุระอยู่นอกบ้านอยู่นั้น จู่ๆ ลูกชายคนโต โทรศัพท์มาบอกว่าน้องสาวต่างบิดาถูกโจรจับมัดและใช้กาวหยอดที่ตาจนได้รับบาดเจ็บ ตนเลยรีบกลับมาบ้านและพบลูกสาวอยู่ในสภาพร่ำไห้เพราะยังตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังตั้งสติได้จึงเล่าให้ฟังว่า ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านจู่ๆ มีคนร้ายเป็นชายไทย 1 คน รูปร่างสูง ใส่เสื้อยืดไม่ทราบสี นุ่งกางเกงขาสามส่วน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าคล้ายคนงานก่อสร้าง บุกเข้ามาในบ้านก่อนใช้มือปิดปากบังคับไม่ให้ลูกสาวขัดขืน ก่อนต่อยเข้าที่ท้อง 1 ครั้ง แล้วใช้เสื้อชั้นในของลูกสาวมัดมือ และใช้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือมัดเท้า จากนั้นจึงใช้กาวตราช้างที่เตรียมมาหยอดที่ตาขวาจนลืมตาไม่ขึ้นและรู้สึกปวดแสบปวดร้อน กระทั่งคนร้ายทำท่าว่าจะลงมือข่มขืน ลูกสาวจึงยกมือไหว้อ้อนวอนขอร้องไม่ให้โจรขืนใจ และบอกว่าอยากได้ทรัพย์สินอะไรก็ให้เอาไป คนร้ายเกิดเปลี่ยนใจหันไปคว้าเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 7 พลัส ก่อนหลบหนีไป



น.ส.นงเยาว์ กล่าวอีกว่า คล้อยหลังไม่นานลูกสาวแก้มัดได้ด้วยตัวเอง จึงออกมาขอความช่วยเหลือและพบพี่ชายต่างบิดา ที่ขับรถ จยย.กลับจากซื้อของพอดี จึงโทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบ ซึ่งหลังจากลูกสาวเล่าเรื่องราวให้ฟัง จึงขอให้เพื่อนช่วยนำตัวส่งรักษาที่ รพ.กรุงเทพพัทยา ปกติที่บ้านจะเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัว และมักจะเห่าคนแปลกหน้าเสมอ แต่จากคำบอกเล่าของลูกสาวที่ยืนยันว่า ในขณะเกิดเหตุไม่ได้ยินสุนัขเห่าแต่อย่างใด จึงรู้สึกแปลกใจสงสัยว่าน่าจะเป็นฝีมือคนใกล้ชิด




ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะนายมาโนชญ กับนายอรรถพล พบว่าทั้งคู่มีสารเสพติดในร่างกาย เมื่อสอบเค้นอย่างหนัก นายมาโนชญ จึงให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุพยายามจะขืนใจน้องสาวต่างบิดาในขณะที่นอนหลับ เพราะเห็นว่าน้องหน้าตาดี ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้เสพยาบ้าและดื่มเบียร์ จนเมาได้ที่จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงวางแผนเผด็จศึกด้วยการหาหมวกไหมพรมมาสวมปิดบังใบหน้า แล้วคว้ากาวตราช้างจากในห้องเก็บเครื่องมือติดมาด้วย ก่อนลงมือต่อยท้องน้องสาวไป 1 ทีแล้วพันธนาการด้วยเสื้อชั้นในและสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ เพื่อหวังลงมาบังคับขืนใจ แต่น้องสาวขอร้องไม่ให้ล่วงละเมิดทางเพศ ภายหลังจึงเกิดได้สติเลยไม่ได้ขืนใจอย่างที่หวังไว้ จึงจับน้องสาวขังไว้และคว้าโทรศัพท์ติดมือไปแล้วรีบขับขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป ก่อนทิ้งช่วงเวลาสักพักแล้วขับย้อนกลับมาบ้านทำทีว่าเพิ่งกลับจากทำธุระ แต่สุดท้ายตำรวจสอบเค้นหนักจึงยอมรับสารภาพดังกล่าว



น.ส.นงเยาว์ เปิดเผยว่าล่าสุดอาการลูกสาว แพทย์ได้รักษาจนสามารถลืมตาได้แล้วและอนุญาตให้กลับมาพักผ่อนที่บ้านได้แต่ต้องกลับไปตรวจซ้ำอีกรอบในวันที่ 15 ส.ค.คดีนี้ถึงแม้คนร้ายจะเป็นลูกชายแท้ๆ แต่ตนเห็นว่าการกระทำในครั้งนี้ เกินไปจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย