หนุ่มใหญ่โวยโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ หลังแอบถ่ายคลิปขณะที่ตนกับแฟนเข้าไปใช้บริการ แล้วนำมาเผยแพร่ทางโซเชียล
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเอ (นามสมมุติ) หนุ่มชาว ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ว่า ถูกแอบถ่ายขณะที่ตนกับแฟนไปใช้บริการม่านรูดแห่งหนึ่งแล้วนำมาเผยแพร่ในโซเชียลกลุ่มลับ พร้อมกับเตรียมแจ้งความกับเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำงานอยู่ในธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ได้รู้จักคบหาเป็นแฟนกับ น.ส.บี (นามสมมุติ) และได้พา น.ส.บี ไปใช้บริการรีสอร์ทลักษณะเป็นม่านรูดแห่งหนึ่ง อยู่ติดถนนบายพาสหลัง รพ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่ต้นปี 2560 ประมาณ 4 - 5 ครั้ง
โดยครั้งล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา และหลังจากเสร็จกิจแล้วตนจึงกลับมาบ้าน จากนั้นได้เปิดโทรศัพท์เล่นทวิตเตอร์ ปรากฎว่ามีผู้ใช้นามว่า “เสือน้อย” ได้โพสต์ภาพและข้อความ ตนจึงรับเป็นเพื่อนและเปิดเข้าไปดูพบว่าเป็นคลิปโป๊ และต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคลิปดังกล่าวเป็นภาพของตนกับ น.ส.บี กำลังมีเพศสัมพันธ์กันภายในรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว จากนั้นตนจึงเลื่อนไปดูคลิปอื่นๆ ก็แทบช็อกเมื่อพบว่าเป็นภาพของตนกับ น.ส.บี กว่า 100 คลิป ลักษณะเป็นการตัดต่อให้อยู่ในสถานที่ต่างๆ เช่น กลางแจ้ง กลางป่า รวมทั้งลักษณะเซ็กซ์หมู่
![](http://newtv.co.th/images/content/ct_20180813042440654.jpg)
สาเหตุที่ตนมั่นใจว่าเป็นภาพของตนเองกับ น.ส.บี ทั้งๆ ที่ไม่เห็นหน้า เนื่องจากตนจำลักษณะร่างกายของตัวเองได้ จำนาฬิกา แหวน แผลเป็นบริเวณหน้าท้อง และเสื้อผ้าของ น.ส.บี สวมใส่ขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ ตนจึงมั่นใจว่าคลิปดังกล่าวต้องมาจากรีสอร์ทม่านรูดที่ตนไปใช้บริการอย่างแน่นอน จึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุย แต่ผู้ดูแลรีสอร์ทกลับขอชื่อ ที่อยู่และเลขบัตรประชาชนของตนเอง โดยอ้างว่าจะนำไปให้ลูกน้องซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ตรวจสอบก่อน ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งตนเป็นผู้เสียหายทำไมจะต้องถูกตรวจสอบด้วย และรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว ก็ไม่ให้คำอธิบายแก่ตนเองแต่อย่างใด ตนเห็นว่าการกระทำของรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งตนก็ยังไม่ฟันธงว่ารีสอร์ทม่านรูดเป็นผู้กระทำ แต่อาจจะมีขบวนการที่ไปแอบติดกล้องไว้ภายในห้องก็เป็นได้ แต่เมื่อยังไม่มีคำอธิบายตนจึงจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบสวนต่อไป และนอกจากนั้นตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ภาพคลิปวีดีโอดังกล่าวในข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไปด้วย
นายเอ กล่าวในตอนท้ายว่า ในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) ตนจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยการประสานงานของทีมทนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพราะตนเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวต้องเป็นขบวนการ โดยมีการซื้อ-ขายคลิปที่แอบถ่ายจากรีสอร์ท ม่านรูดต่าง ๆ แล้วนำไปตัดต่อและเผยแพร่ในกลุ่มลับอย่างแน่นอน