นายกรัฐมนตรี ดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย เตือนสหรัฐวันนี้ระหว่างเยือนเขตคัมชัตกาว่า มาตรการคว่ำบาตรใด ๆ ของสหรัฐที่มีเป้าหมายปิดกั้นการทำธุรกรรมทางการเงิน และการปริวรรตเงินตราของรัสเซีย จะถูกพิจารณาว่า เป็นการประกาศสงครามเศรษฐกิจ และจะตอบโต้ด้วยมาตรการที่จำเป็น ทั้งทางเศรษฐกิจ, การเมือง หรือวิธีการอื่น ๆ พร้อมทั้งย้ำว่า เพื่อนชาวอเมริกันของเราจะไม่ผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้
เมดเวเดฟเตือนว่า รัสเซียมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในการเอาตัวรอดจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และไม่เคยก้มหัวให้กับแรงกดดันในอดีต “ประเทศของเราเคยอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อเนื่อง ผ่านมาตรการคว่ำบาตรเป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา” เมดเวเดฟ กล่าว พร้อมกล่าวหาสหรัฐและพันธมิตรว่า ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อลดทอนอำนาจการแข่งขันในระดับโลก “ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลง”
นายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวด้วยว่า เป้าหมายการเล่นงานอยู่ที่การส่งออกก๊าซของรัสเซียไปยังยุโรป สหรัฐต้องการผลักดันให้ก๊าซ แอลเอ็นจี (LNG) ของตน เข้าสู่ทวีปยุโรป มันเป็นมาตรการป้องกันการแข่งขันที่ไม่มีอยู่ในระบบการตลาดอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปิดกั้นขีดความสามารถของรัสเซีย
รอยเตอร์รายงานว่า คำเตือนจากนายกรัฐมนตรีเมดเวเดฟ สะท้อนความหวาดกลัวของรัสเซีย กรณีผลกระทบต่อการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อเศรษฐกิจและสินทรัพย์ของตน ซึ่งรวมทั้งค่าเงินรูเบิล ที่ดิ่งลงเกือบร้อยละ 6 ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากหวาดหวั่นเรื่องมาตรการคว่ำบาตร
บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เศรษฐกิจรัสเซียจะโตได้ร้อยละ 1.8 ในปีนี้ หากมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่เสนอโดยรัฐสภาและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ มีผลอย่างเต็มที่ ซึ่งยังคงไม่มีความแน่นอน นักเศรษฐศาสตร์บางคนกลัวว่า อัตราการเติบโตอาจวูบลงเหลือเกือบศูนย์