สปป.ลาวขยายอาคารที่พักผู้โดยสารระหว่างประเทศให้ขึ้นจากเดิมถึง 9 เท่า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาเยือนลาว ให้ได้ 2.3 ล้านคนต่อปี และมีการส่งมอบพื้นที่แล้วเรียบร้อย
ปัจจุบันนี้ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศของสนามบินนานาชาติในกรุงเวียงจันทน์ ประเทศสปป.ลาว สามารถรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากถึง 2.3 ล้านคนต่อปี ซึ่งมากกว่าความสามารถของอาคารหลังเดิมประมาณ 9 เท่า โดยฮาซามา อันโด บริษัทก่อสร้างของญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโครงการขยายสนามบินนานาชาติวัตไต กรุงเวียงจันทน์ ได้ส่งมอบอาคารที่พักผู้โดยสารหลังนี้ให้แก่การท่าอากาศยานสปป.ลาวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และในวันเดียวกันนี้ แจลลุกซ์ บริษัทผู้ให้บริการการบินพลเรือนของญี่ปุ่น และโตโยต้า ทูโช ตกลงเข้าบริหารจัดการส่วนขยายของอาคารที่พักผู้โดยสารระหว่างประเทศ ด้วยการร่วมทุนกับบริษัทในท้องถิ่น เป็นเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ ลาวมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว และอาคารที่พักผู้โดยสารที่ขยายเพิ่มเติมนี้ จะมีบทบาทสำคัญอย่างมาก รัฐบาลสปป.ลาว คาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะเพิ่มเป็น 1.51 ล้านคนในปี 2566 โครงการขยายสนามบิน ได้ขยายอาคารที่พักผู้โดยสารระหว่างประเทศใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่า บนเนื้อที่ 25,000 ตารางเมตร
ขณะเดียวกัน ระหว่างการก่อสร้าง สนามบินนานาชาติวัตไต ก็ได้ใช้อาคารที่พักผู้โดยสารชั่วคราว รับมือนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้าลาว และหลายส่วนของการขยายอาคารที่พักผู้โดยสารตามโครงการนี้ ก็มีความคืบหน้า
สนามบินแห่งนี้ ยังมีการปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารในประเทศด้วย และสร้างอาคารสูง 2 ชั้นหลังใหม่ เนื้อที่ 7,000 ตารางเมตร โครงการขยายสนามบิน ใช้เงินประมาณ 9,700 ล้านเยน หรือประมาณ 2,912 ล้านบาท โดยประมาณ 9,000 ล้านเยน หรือประมาณ 2,700 ล้านบาท เป็นเงินกู้ในรูปเงินเยนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น