ทัพเรือภาค 3 ส่งเรือหลวงนราธิวาสรับ 177 ชีวิตติดเกาะราชา หลังคลื่นลมในทะเลแรงเรือเล็กไม่สามารถออกได้
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. เรือหลวงนราธิวาส ได้นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีทั้งชาวจีน รัสเซียและอื่นๆ จำนวน 161 คน และพนักงานโรงแรมชาวไทยอีก 16 คน จากเกาะราชาใหญ่กลับเข้าฝั่ง จ.ภูเก็ต โดยนำเรือเข้ามาเทียบท่าบริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต หลังจากทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับการประสานจากผู้ประกอบการบนเกาะราชาว่า มีนักท่องเที่ยวติดอยู่บนเกาะจำนวนมาก และมีความจำเป็นต้องกลับขึ้นฝั่ง แต่ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรงความสูงของคลื่น 2-3เมตร และได้มีประกาศเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ห้ามเรือเล็กออกจากฝั่งในระหว่างวันที่ 7-9 ส.ค.นี้ โดยมีพลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทัพเรือภาคที่ 3,ตำรวจท่องเที่ยว,ตำรวจน้ำ และตัวแทนของบริษัทนำเที่ยวต่างๆ มารอรับนักท่องเที่ยวเพื่อนำส่งที่พัก
ทั้งนี้เมื่อเรือเข้าเทียบท่า นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือต่างแสดงอาการดีใจด้วยการโบกมือ และกล่าวขอบคุณทางทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ส่งเรือไปรับกลับเข้าฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะมากันในลักษณะของครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน และได้เดินทางไปพักบนเกาะราชาตั้งแต่ 1-2 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีประกาศของเจ้าท่าฯ เรื่องคลื่นลมแรง และห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง
ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย รายหนึ่งกล่าวว่า ในวันที่เดินทางยังเกาะราชานั้นคลื่นลมยังสงบ และไม่คิดว่าจะมีคลื่นลมแรง แต่เมื่อถึงเวลากลับ ปรากฏว่าเรือไม่สามารถออกจากฝั่งได้ ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน และต้องขอขอบคุณทางทัพเรือภาคที่ 3 ที่ส่งเรือไปรับและกลับถึงฝั่ง จ.ภูเก็ต ได้อย่างปลอดภัย
พลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ภารกิจการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกลับมายังเกาะภูเก็ตครั้งนี้ เนื่องจากทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับการประสานจากผู้ประกอบการบนเกาะราชาว่า มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งติดอยู่บนเกาะ และไม่สามารถนำเรือมาส่งได้ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ประกอบกับมีประกาศของเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ห้ามเรือเล็กและเรือที่มีความยาวต่ำกว่า 9 เมตร ออกจากฝั่งในระยะนี้ แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วนมีกำหนดที่จะต้องเดินทางกลับประเทศ
“หลังรับการประสานก็ได้สั่งการให้นำเรือหลวงนราธิวาส ซึ่งประจำการอยู่ที่ฐานทัพเรือพังงา เดินทางมารับนักท่องเที่ยวและพนักงานโรงแรมดังกล่าว จำนวนรวม 177 คน กลับเข้าฝั่งภูเก็ต เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เดินทางไปพักบนเกาะก่อนที่จะมีการประกาศเรื่องคลื่นลมแรง”
พลเรือโทสมนึก กล่าวด้วยว่า การเฝ้าระวังในระยะนี้ โดยเฉพาะในทะเลก็จะมีเรือตรวจการณ์และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอยู่แล้ว เพื่อเป็นการป้องเหตุ โดยดำเนินการมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุเรือจมเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา และภายหลังมีประกาศ ก็ยังไม่มีรายงานพบเรือที่ฝ่าฝืนออกจากฝั่ง แต่ทั้งนี้อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการว่าขอให้คิดถึงนักท่องเที่ยวให้มาก เพราะหากพาเขาไปเที่ยวแล้วไม่สามารถพาเขากลับมาได้ตามกำหนดก็จะส่งผลกระทบในหลายเรื่อง เช่น ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น หากมีการตรวจสอบและพบว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และสามารถงดนำนักท่องเที่ยวออกไปเกาะต่างๆ ได้ก็ควรจะงด โดยเฉพาะในระยะนี้ซึ่งสภาพอากาศค่อนข้างปรวนแปร ทำให้มีโอกาสเกิดการผิดพลาดได้มาก