ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวบนเกาะลอมบอกของอินโดนีเซีย ฉุดไม่อยู่แล้ว ล่าสุดเมื่อวานนี้ พุ่งขึ้นเกือบ 350 รายแล้ว ส่วนความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเลือนลางเต็มที
สำนักข่าวอันตาราของทางการอินโดนีเซีย รายงานเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว 6.9 บนเกาะลอมบอก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉุดไม่อยู่ พุ่งขึ้นเป็น 347 รายแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองคายันกัน ทางตอนเหนือของเกาะลอมบอก, ผู้บาดเจ็บ 1,447 คน และอีก 165,003 คน ไร้ที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ จากผลการสำรวจสำมะโนประชากรในปี 2553 พบว่า ในพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะลอมบอก ซึ่งเป็นเขตเทือกเขา มีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 2 แสนคน และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลอินโดนีเซียประเมินว่า มีประชาชน 2 หมื่นคนต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากบ้านเรือนประมาณร้อยละ 80 พังเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ก็ยังไม่สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ประสบภัยพิบัติได้
ขณะที่ สำนักงานบรรเทาทุกข์ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ ก็เตือนว่า ผลกระทบที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจต้องใช้เวลานานหลายวัน จึงจะประเมินได้ทั้งหมด ขณะนี้ ยังต้องรอการประเมินจากพื้นที่ห่างไกลหลายแห่งทางภาคเหนือของเกาะ แต่ก็มีความชัดเจนแล้วว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ สร้างความเสียหายในวงกว้างและรุนแรง
ขณะเดียวกัน ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเริ่มเลือนลาง แต่ก็เริ่มส่อเค้าว่าจะเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมสำหรับประชาชนหลายพันคนที่ไร้ที่อยู่อาศัย โดยในหลายพื้นที่ ผู้ประสบภัยต้องการน้ำสะอาด, อาหาร, ยารักษาโรคและที่พักอย่างเร่งด่วน
ชาวบ้านหลายร้อยคนบนเกาะลอมบอก ที่สูญเสียบ้านเรือนจากแผ่นดินไหว ก็ยังคงพากันพักอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวบนเนินเขาเมื่อวานนี้ เนื่องจากกังวลว่า การเกิดอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องหลายร้อยครั้ง อาจทำให้เกิดสึนามิได้
ทั้งนี้ อินโดนีเซียตั้งอยู่ในพื้นที่เปลือกโลกที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” และมักเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ซึ่งในปี 2547 เกิดคลื่นยักษ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย มีผู้เสียชีวิตถึง 226,000 คน ใน 13 ประเทศ ซึ่งรวมทั้งกว่า 120,000 คนในอินโดนีเซียด้วย