ผบ.ตร. ระบุ "เสี่ยอ้วน" มีทางเลือกเพียง 2 ทาง คือ "ทางตัน-ทางตาย" แนะมอบตัวดีที่สุด
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ น้องฟอส อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี ชาว อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยคดีนี้มีผู้ต้องหา 6 ราย ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว 5 ราย เหลือผู้ต้องหาคนสำคัญ คือ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” อายุ 39 ปี อยู่ระหว่างการหลบหนี
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้เสี่ยอ้วนอยู่ที่ไหน คงต้องตอบว่าอยู่ในใจตน ผู้ต้องหาที่หนีหมายจับมีทางเลือกเพียง 2 ทาง คือ ทางตันกับทางตาย แค่นั้น ยิ่งมีปืนด้วย มอบตัวดีที่สุด นี่ไม่ใช่การส่งสัญญาณอะไร แต่ปากกับใจตรงกันอยู่แล้ว เขามีปืน ฆ่าได้แม้กระทั่งผู้หญิง จะให้ทำยังไง ต้องบอกลูกน้องหากเจอให้ป้องกันตัวไว้ก่อน ไม่บอกหรอกว่าใกล้ได้ตัวหรือยัง บอกไม่ได้ว่าอยู่ในหรือนอกประเทศ ส่วนการประสานงานกับประเทศกัมพูชานั้น ขอสงวนไว้ก่อน รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกว่าเขาจะหนีทางไหน ตอนนี้ตามทุกคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ทั้งเสี่ยอ้วนและนายอัศยา ชัยภา หรือ โก้ ที่าฆ่า น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ เชอรี่ อายุ 39 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีข่าวว่าหลบหนีไปฝั่งกัมพูชา ก็อยู่ระหว่างการประสานงานแต่บอกไม่ได้ว่าทำอะไร ขั้นไหน บอกไปลงเดี๋ยวคนร้ายขยับอีก