คืนชีพ! “โวลูบิลิส” เมืองโบราณโมร็อกโก หลังถูกทิ้งร้าง

2018-08-08 14:45:16

คืนชีพ! “โวลูบิลิส” เมืองโบราณโมร็อกโก หลังถูกทิ้งร้าง

Advertisement

หลังจากที่ถูกทิ้งร้างให้ผุพังมานานหลายปี ตอนนี้โวลูบิลิสโบราณสถานแห่งโมร็อกโกดึงนักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งแล้ว


ภาพ AFP



โวลูบิลิส โบรานสถานยุคโรมันที่เก่าแก่ที่สุดของโมร็อกโกตั้งอยู่บนตีนเขาเซอร์ฮูนอย่างเดียวดายและถูกทอดทิ้งมานาน ตอนนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งเพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

โดยเมืองโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าต้นมะกอกใกล้กับเมืองเม็กเนส และเป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดการสร้างพิพิธภัณฑ์และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ขึ้น เพราะดึงดูดนักท่องเที่ยวนับแสนคนเข้ามา นักท่องเที่ยวเหล่านี้เดินทอดน่องไปตามทางเดินหลักที่มีหน้ามุขและซากเคหสถานขนาดยักษ์ ซึ่งตกแต่งปูกระเบื้องโมเสกบนพื้นอันแสดงถึงความรุ่งเรืองสมัยก่อน ขณะที่มีประตูชัยอันเป็นสัญลักษณ์สถาปัตยกรรมแบบโรมันตั้งอยู่ด้านบนสุด




ภาพ Deyan Denchev / Shutterstock.com

เมืองโวลูบิลิสหรือ “วาลีลี” เรียกตามภาษาอารบิกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2540

โมฮัมเหม็ด อาลีลู ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่และผู้ช่วยผู้ดูแลกล่าวว่าเมืองโบราณแห่งนี้ตั้งตระหง่านผ่านอารยธรรมมาหลายยุกคสมัย ตั้งแต่ยุคมอริตอเนียไปจนถึงโรมันและยุคอิสลาม




ภาพ saiko3p / Shutterstock.com

ปลายศตวรรษที่ 17 สุลต่านมูเลย์ อิสมาอิลส่งทาสนับหมื่นคนมาขโมยเอาเสาหินอ่อนของโวลูบิลิสไปสร้างพระราชวังของตนเองในเมืองเม็กเนส อาลีลูผู้ดูแลโบราณสถานนี้ว่ากว่า 30 ปีเล่าต่อว่าพบเสาที่ทาสทิ้งอยู่ระหว่างทางจากโวลูบิลิสไปเมืองเม็กเนสเมื่อทราบว่ามูเลย์ อิสมาอิลสิ้นพระชนม์ก็เลยหนีไป

การขุดโวลูบิลิสเริ่มขึ้นในปี 2458 พร้อม ๆ กับโครงการวิจัยและบูรณะ แต่เมื่อโวลูบิลิสได้รับความสนใจก็พาให้ตกเป็นเป้าหมายของการปล้น โดยเฉพาะในช่วงที่ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2455 ถึง 2499




ภาพ oBebee / Shutterstock.com

อาลีลูกล่าวว่าเรื่องปล้นเหล่านั้นเป็นอดีตไปแล้วเพราะทุกวันนี้ “สถานที่แห่งนี้มีรั้วกั้นและได้รับการคุ้มกันอย่างดี” ด้วยเจ้าหน้าที่ 14 นายที่ทำงานทั้งวันทั้งคืน และยังมีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที่อีกด้วย โดยนับตั้งแต่เปิดพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2556 เมืองเก่าแห่งนี้ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้นับแสนคนต่อปี

มุสตาฟา แอตกี ผู้ดูแลโวลูบิลิสอีกรายกล่าวว่า “ในปี 2560 เป็นครั้งแรกที่เราผีผู้เยี่ยมชมเกิน 300,000 คน”