แชร์ว่อนโซเชียล นักศึกษาใหม่มหาลัยชื่อดังโกงเงินกว่าล้านบาท ด้านต้นสังกัดขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงก่อน
จากกรณีกระแสบนโลกโซเชียล ที่มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกโอนเงินซื้อสินค้าออนไลน์ และไม่ส่งสินค้าให้ลูกค้าที่โอนเงินให้แล้ว สร้างความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก ได้มีการนำรูปของเด็กสาวรายหนึ่งที่อยู่ในชุดนักศึกษาของวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ลงในเฟซบุ๊คส่วนตัวพร้อมข้อความว่า “นี่คือโฉมหน้าโกงเงินหลายแสนค่ะ ใครพบเจอ ติดต่อกลับมาหน่อยนะคะเพราะดูเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ดี #ทีมมช #pimjai_review #รับน้องมช”
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจากการสอบถามนักศึกษาของวิทยาลัย ทั้งนักศึกษาใหม่ และนักศึกษาชั้นปีต่างๆ บอกตรงกันว่า เพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว โดยเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ อยากให้มีการตรวจสอบเสียก่อน ทั้งนี้หลังเกิดเรื่องพบว่านักศึกษาคนดังกล่าวยังมาเรียนตามปกติและนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีหรือมีปฏิกิริยาใดๆ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิติพงษ์ ยอดมงคล คณบดีวิทยาลัยสื่อ ศิลปะ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า เบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดต่อกับผู้ปกครองของนักศึกษาแล้วโดยผู้ปกครองจะเดินทางจากจังหวัดน่าน มาพูดคุยในรายละเอียด อย่างไรก็ดีทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความเป็นห่วงสภาพจิตใจของนักศึกษาคนนี้มาก และจะมีการจัดนักจิตวิทยาไปพูดคุยให้ความช่วยเหลือ พร้อมจะมีการช่วยเหลือต่างๆ ตามความเหมาะสมเพื่อให้นักศึกษาคนนี้ยังใช้ชีวิตและเรียนหนังสือได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดย รองศาสตราจารย์โรม จิรานุกรม รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ ได้มีการออกมาเปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวทางสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง กรณีนักศึกษาวิทยาลัยสื่อ ศิลปะ และเทคโนโลยี ที่ผ่านมานั้น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ทราบเรื่อง และไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นที่จะผลิตบัณฑิตที่เป็นผู้มีคุณธรรม เป็นคนดีที่ออกไปรับใช้สังคม เราปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนนักศึกษาใหม่คนนี้จะเข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ขออนุญาตกราบเรียนว่าจำเป็นที่จะต้องสืบข้อเท็จจริง ต้องใช้เวลาในการที่จะประมวลข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อจะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา และเมื่อทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จะเรียนให้กับทางผู้สื่อข่าวและพี่น้องประชาชนได้ทราบต่อไป