หลายหน่วยงานเร่งเยียวยา “น้องเจล” ถูกครูบิดหูเป็นแผล

2018-08-07 13:55:21

หลายหน่วยงานเร่งเยียวยา “น้องเจล” ถูกครูบิดหูเป็นแผล

Advertisement

“น้องเจล” ที่ถูกครูบิดหูจนเป็นแผล อาการดีขึ้นทั้งกายและจิตใจ ขณะที่หลายฝ่ายลงพื้นที่เยียวยา ด้านพ่อยืนยันย้ายโรงเรียนแน่นอน ขอให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์กับครูทุกคน



จากกรณีที่ "น้องเจล" เด็กหญิงวัย 4 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ชัยนาท ถูก นส.นันทินี หมั่นเขตกิจ หรือครูกล้วย ครูประจำชั้นของน้องเจล บิดหูทั้ง 2 ข้างจนเป็นแผลยาวประมาณ 4 ซม. จนไม่กล้าไปโรงเรียนตามที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้นั้น






เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายวินัย ตะปะสา รองศึกษาธิการจังหวัดรักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท เจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดชัยนาท นายคมคาย น้อยเอี่ยม ผู้อำนวยการโรงเรียนวรรณรัตน์วิทยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ลงพื้นนำสิ่งของ มามอบให้ที่บ้านของน้องเจล ที่บริเวณบ้านเลขที่ 8 ม.4 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท พบน้องเจลกำลังเล่นกับนายวัลลภ ธรรมสนธิเจริญ อายุ 29 ปี ผู้เป็นพ่ออยู่ด้วยอาการร่าเริงแจ่มใส ส่วนบาดแผลนั้นตอนนี้เริ่มตกสะเก็ดแล้ว สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น แต่ทางเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต้องมาตรวจสอบดูอาการของน้องเจล จนกว่าจะสามารถไปเรียนได้ ทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย





ส่วนเรื่องคดีความนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการส่งใบตรวจร่างกายไปให้แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลที่ได้รับนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ถ้าไม่ถึงเป็นอันตรายก็จะเรียนตัวครูมาทำการเปรียบเทียบปรับ ตามกฎหมายต่อไป ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน





ด้านนายวินัย ตะปะสา รองศึกษาธิการจังหวัดรักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมวันนี้พบว่าบาดแผลน้องเจล มีการสมานตัว ไม่มีอาการติดเชื้อ ส่วนสภาพจิตใจเริ่มกลับมาร่างเริงตามปกติ



ในส่วนของครูที่ทำร้ายน้องเจลนั้น ได้มีการเรียกมาสอบสวน และเรียกครูทั้งหมดของโรงเรียนดังกล่าวมาอบรม ให้ทราบว่าสิ่งใดควรกระทำและไม่ควรกระทำต่อเด็ก เพราะเด็กนักเรียนทุกคนต่างก็มีผู้ปกครอง ทุกคนเลี้ยงมาด้วยความรักความเอาใจใส่ ลูกใคร ใครก็รัก ไม่ควรทำเกินเลย แม้ว่าเด็กจะดื้อหรือซน เพราะเราคือแม่พิมพ์พ่อพิมพ์ของชาติต้องทำตัวเป็นแบบอย่างของทั้งนักเรียนและสังคม





ด้านนายวัลลภ ธรรมสนธิเจริญ พ่อน้องเจล เปิดเผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของน้องและครอบครัวดีขึ้นมาก แต่ยังต้องทำเรื่องย้ายโรงเรียน เพราะได้ทำการปรึกษากันแล้วว่าจะต้องย้ายโรงเรียนอย่างแน่นอน ตัวน้องเจลเองก็กลัวไม่กล้าไปเรียนที่เดิมอีก ตอนนี้อยากให้น้องเจลพักสัก 1 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างที่พักนั้น ตนจะไปเดินเรื่องขอย้ายไปโรงเรียนอนุบาลมโนรมย์



ตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว เพราะตัวครูก็สารภาพแล้วว่าเป็นคนทำเกินกว่าเหตุจริง ตนก็ไม่อยากถือสาอะไร เพราะทุกอย่างเกี่ยวเนื่องกัน เสียทั้งชื่อเสียงโรงเรียน เสียทั้งชื่อเสียงจังหวัด ตอนนี้มีผู้ออกมารับผิดชอบ มาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วตนก็ดีใจ อยากให้เป็นอุทาหรณ์มากกว่า ว่าผู้ปกครองทุกคนรักบุตรหลานทุกคน ไม่อยากให้ลูกเจ็บแบบนี้ อยากให้ครูคิดดีๆ ก่อนที่จะทำ เพราะสิ่งที่เกิดไปแล้วมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้