แอบตื่นเต้นนิดๆ เมื่อรู้ว่าจะมีหนังแอคชั่น-แฟนตาซี ระเบิดพลังนอกกระแสมาฉายอีกเรื่องในปีนี้ The Darkest Minds (จิตทมิฬ) เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของโลกที่เกิดโรคระบาดแปลกประหลาด เด็กที่ป่วยจะตายในทันที เพียงไม่กี่เดือน ประชากรเด็กบนโลกจึงเหลืออยู่เพียง 2% แต่ทว่า ประชากรเด็กที่รอดมาได้นั้นกลับมีพลังพิเศษมหัศจรรย์ ซึ่งแบ่งออกเป็น สีเขียว(ความฉลาด) สีน้ำเงิน(เคลื่อนย้ายสิ่งของ) สีทอง(ควบคุมไฟฟ้า) สีแดง(...) สีส้ม(พลังจิต) โดยเด็กๆ ทั้งหมดที่รอดมาได้ต้องเผชิญกับตามล่าของรัฐบาล ที่จะนำตัวไปที่ค่ายกักกัน และมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งหากใครที่แหกกฎจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักถึงขั้นตาย...
รูบี้ เดลี่ เด็กสาวผิวสี ที่อาศัยอยู่เวอร์จิเนีย กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ในย่านปลอดภัย รูบี้คือหนึ่งในเด็กที่รอดมาได้ และในคืนหนึ่งพลังพิเศษที่ถูกเก็บซ่อนไว้ของเธอก็ปรากฏออกมา ซึ่งนั้นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พร้อมไปกับเพื่อนใหม่ที่ไม่คำนึงถึงความต่าง เลียม, ชาลล์, ซู, เดอะลีค และเพื่อนแปลกหน้าอีกมากมาย
หนังให้ความรู้สึกเหมือนดู The gift เล็กๆ พลังพิเศษแบบเด็ก ไม่ถึงขั้น X-Men แต่ก็รู้สึกว่าพลังของนางเอกมีการถูกใช้เหมือนตัวละครบางคนใน X-Men แต่จะเป็นใคร และเหมือนขนาดไหนต้องไปดูในโรง ถ้าใครชอบพิเศษแปลกที่ตัวละครแต่ละคนได้รับ stop! เรื่องนี้คุณจะได้เห็นความเท่าเทียบกันของพลังพิเศษในระดับชั้นต่างๆ ที่เด็กๆ ได้รับ เป็นความเท่าเทียบแต่ไม่ยุติธรรม ทุกคนมีพลังๆ แต่ระดับนั้นไม่เท่ากัน ตัวหนังสื่ออะไรได้มากกว่าเรื่องของพลังพิเศษ มีช่วงสั้นๆ ที่รูบี้รอดออกมาได้ และค้นพบว่าเหมือนโลกขาดแคลนเด็กๆ เศรษฐกิจหยุดเจริญและโลกไม่พัฒนา เพราะขาดทรัพยากรมนุษย์ และฉากที่ก่อนจะจบก็เห็นอีกมุมหนึ่งว่า เด็กๆ เองก็ไม่สามารถใช้ชีวิตโดยขาดผู้ใหญ่ไปได้เหมือนกัน
เรื่องนี้ได้นักแสดงผิวสีมารับบทนำมากพอควร รวมทั้งนักแสดงเอเชีย แม้แต่ตัวประกอบก็ยังเป็นคนผิวสี เหมือนเป็นนัยๆ เรื่องแบ่งชนชั้นด้วยสีผิว แต่ความรู้สึกดัน ไปขัดกับที่แบ่งเด็กๆ ด้วยสีอีกที
ผู้ใหญ่บางคนก็ปฏิบัติกับเด็กๆ เหมือนกับว่าพวกเด็กๆ เป็นที่น่ารังเกียจ บางคนก็เห็นแก่เงินค่าหัวที่สามารถจับเด็กๆ ไปได้โดยไม่สนความถูกต้อง หรือบางคนที่เลือกที่จะเชื่อข่าวปลอมๆ แทนที่จะออกมาเผชิญดูโลกความจริง
หนังปูไปภาคต่อมาก รวมทั้งมีการทำสัญลักษณ์เป็นเชิงปฏิวัติในตอนท้าย เราต้องมากันว่าภาคต่อจะไปในทิศทางไหน คาดว่าถ้าปฐมบทปัง เราคงได้เห็นฮีโร่น้องใหม่อย่างรูบี้โลดแล่นในวงการภาพยนตร์อย่างแน่นอน
'ถ้าคุณเป็นแบบเรา จงมาหาเรา' The Darkest Minds ฉากแล้ววันนี้
รีวิว : 3 ดาวครึ่งจาก 5 ดาว
