ชิลีเป็นชาติแรกในลาตินอเมริกา ห้ามใช้ถุงพลาสติก

2018-08-04 10:20:14

ชิลีเป็นชาติแรกในลาตินอเมริกา ห้ามใช้ถุงพลาสติก

Advertisement

ชิลี ออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกเป็นประเทศแรกของอเมริกาใต้ รัฐสภาผ่านความเห็นชอบ ประธานาธิบดีลงนามเป็นกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

ชิลีกลายเป็นประเทศแรกของอเมริกาใต้ ที่ออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกเชิงพาณิชย์ โดยกฎหมายใหม่ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปีเนรา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายไปแล้ว กำหนดให้เวลาร้านค้าขนาดเล็ก 2 ปี เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายนี้อย่างเคร่งครัด ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่จะมีเวลา 6 เดือนในการหยุดใช้ถุงพลาสติก ขณะเดียวกัน กฎหมายก็อนุญาตให้ร้านค้าใช้ถุงพลาสติกบรรจุสินค้าเพียง 2 ถุงต่อลูกค้าหนึ่งคนเท่านั้น หากร้านค้าธุรกิจใดละเมิดกฎหมาย จะถูกปรับเป็นเงิน 370 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 12,000 บาท

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า มลภาวะจากพลาสติก ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตสัตว์ทะเลและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ด้วย




ประธานาธิบดีปีเนรา กล่าวว่า กฎหมายใหม่ฉบับนี้ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ชิลีเป็นประเทศสะอาดขึ้น “พวกเราต้องการก้าวออกจากวัฒนธรรมใช้แล้วทิ้ง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างถูกใช้และทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ไปสู่วัฒนธรรมของการนำกลับมาใช้ใหม่ หรือรีไซเคิลที่เข้มแข็ง ประชากรโลก 7.6 พันล้านคน พวกเราไม่สามารถสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อมได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเราแต่ละคนล้วนเป็นเจ้าของโลกใบนี้”

นอกจากนี้ เขายังได้มอบถุงผ้าที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ในพิธีประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกเมื่อวานนี้



โดยกฎหมายฉบับนี้ ถูกเสนอโดยนายมิเชล บาเชเลต ประธานาธิบดีคนก่อน ซึ่งห้ามใช้ถุงพลาสติกในเขตปาตาโกเนียของชิลีนำร่อง ส่วนประเทศอื่น ๆ อีกหลายชาติ ก็กำลังพยายามต่อสู้กับมลพิษจากพลาสติกเช่นกัน ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปานามาก็เห็นชอบกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติก ให้เวลาธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ 24 เดือน ให้ค่อย ๆ เลิกใช้ถุงพลาสติกใส่สินค้าให้ลูกค้า ส่วนในอังกฤษ หากต้องใช้ถุงพลาสติก มีการบังคับให้ต้องจ่ายเงิน 5 เพนนีต่อ 1 ถุง เมื่อปี 2558