คลื่นความร้อน กำลังจะก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติสร้างความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรอย่างเลวร้ายในเกาหลีเหนือ รัฐบาลต้องเรียกร้องให้ประชาชนพยายามอย่างเต็มที่ในการปกป้องพืชผลทางการเกษตรไม่ให้เสียหายจากภัยแล้ง
เกาหลีเหนือ แถลงเมื่อวานนี้ว่า คลื่นความร้อนกำลังก่อให้เกิด “ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” และเรียกร้องให้ประชาชนของตน ช่วยกันป้องกันพืชผลทางการเกษตรให้รอดพ้นจากภัยแล้ง ขณะที่ คาบสมุทรเกาหลีกำลังเผชิญหน้ากับอุณหภูมิสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และเกาหลีใต้ก็มีผู้เสียชีวิตจากคลื่นร้อนแล้ว 28 ราย ส่วนในเกาหลีเหนือ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับความยากลำบากจากปัญหาทุพภิกขภัย หรือความอดอยากอยู่แล้ว สื่อรัฐบาล เตือนว่า พืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ เช่นข้าวและข้าวโพด มีแนวโน้มว่าจะถูกภัยแล้งคุกคาม จึงเรียกร้องให้ประชาชนร่วมมือกันใช้ความพยายามอย่างหนักในการปกป้องพืชผลต่าง ๆ โดยอุณหภูมิที่สูงขึ้นในปีนี้ เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่ยากเกินกว่าจะเอาชนะได้
บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โรดอง ของทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า เจ้าหน้าที่และประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วน ควรจะแสดงออกถึงความรักชาติและกระตือรือร้นร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันความเสียหายจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงและความแห้งแล้ง
ส่วนสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ กระบอกเสียงของรัฐบาลโสมแดงอีกแห่งหนึ่ง รายงานว่า กำลังเร่งรีบซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับการชลประทาน และมีการขุดสระและบ่อน้ำแห่งใหม่เพิ่มด้วย นอกจากนี้ ยังมีการระดมรถบรรทุกน้ำ รถแทร็กเตอร์, รถบรรทุกและรถยนต์อื่น ๆ เข้ามาในพื้นที่ชลประทาน พร้อมกับอุปกรณ์ชลประทานต่าง ๆ ที่หาได้ เข้ามาช่วยกัน
อุณหภูมิในกรุงเปียงยาง เมืองหลวงเกาหลีเหนือ วัดได้ 37.8 องศาเซลเซียส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่วนในกรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ วัดได้ 39 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกได้
ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปีนี้ เดวิด บีสลีย์ ประธานองค์การอาหารโลกของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เดินทางเยือนเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งหนัก กล่าวว่า เกาหลีเหนือกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้านโภชนากรของยูเอ็น บีสลีย์ใช้เวลาอยู่ 2 วันในกรุงเปียงยาง และอยู่นอกกรุงเปียงยางอีก 2 วัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลโสมแดง
เขากล่าวว่า ระดับของความอดอยาก ไม่ได้อยู่ในระดับสูงเท่ากับในช่วงทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเชื่อว่า มีประชาชนหลายพันคนเสียชีวิตจากความอดอยากอย่างแพร่หลายในเกาหลีเหนือระหว่างปี 2537 และ 2541
“ผมไม่เห็นความอดอยากเหมือนในทศวรรษที่ 1990 นั่นถือเป็นข่าวดี แต่ถามว่า มีปัญหาความอดอยาดหิวโหยไหม? มีปัญหาการขาดสารอาหารไหม? ไม่ต้องถามเกี่ยวกับเรื่องนี้” เขากล่าวกับบีบีซี
หลังเกิดภัยแล้งในปี 2560 ยูเอ็นแถลงว่า มี 7 ใน 10 คนของชาวเกาหลีเหนือ ยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาหาร ขณะเดียวกัน ก็ยังมี 4 ใน 10 คน ประสบปัญหาขาดสารอาหาร ทั้งนี้ เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้นของยูเอ็น กรณีโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ แม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐดีขึ้นก็ตาม
การบริหารประเทศผิดพลาดตลอดระยะเวลาหลายสิบปี และการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ประเทศเปราะบางต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่นน้ำท่วมและภัยแล้ง