ผบก.ปคม.ยังไม่ฟันธงคดี “น้องหญิง” เข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่ ชี้ข้อมูลที่บอกว่า “เป็ด” เป็นธุระจัดหา เป็นเพียงการบอกเล่าเท่านั้น
จากคดีการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง อายุ 19 ปี ซึ่งนายสุรพล ดาราคำ อ๊อฟคนขับรถเทรลเลอร์ที่น้องหญิงนั่งไปด้วย อ้างว่า น้องหญิงกระโดดลงจากรถ แต่ญาติเชื่อว่าเป็นฆาตกรรมอำพราง โดยนายสุบิน ยาวิราช อายุ 41 ปี ผู้เป็นพ่อของน้องหญิงได้ร้องขอความช่วยเหลือจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ช่วยติดตามคดีตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการการค้ามนุษย์( ผบก.ปคม.)เปิดเผยการสืบสวนคดีของน้องหญิงว่า บก.ปคม. ได้ลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่เกิดคดีขึ้น เนื่องจากทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศจะตรวจสอบทั้งหมด และขณะนี้ชุดสืบสวน บก.ปคม.ยังคงลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข้อมูล เบื้องต้น คาดว่า น.ส.เป็ดอาจเป็นเพียงธุระจัดหา แนะนำ ซึ่งข้อมูลยังไม่ชัดเจนว่า น.ส.เป็ดได้ประโยชน์ในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะข้อมูลที่บอกว่า น.ส.เป็ดเป็นธุระจัดหา เป็นเพียงการบอกเล่าเท่านั้น ส่วนการสอบปากคำพยานคือ น.ส.เจน ที่ระบุว่าเคยถูกกระทำการแบบน้องหญิง ขณะนี้ยังไม่ได้เดินทางมาพบ แต่ทราบว่าขณะนี้ ทางกองบังคับปราบปรามได้มีการสอบปากคำไปแล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถประสานข้อมูลกันได้ ทั้งนี้หากพบว่าเรื่องเกิดขึ้นขณะหญิงสาวเป็นเยาวชน ก็จะเข้าข่ายข้อหาการค้ามนุษย์
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติกรรมการซื้อประเวณีของกลุ่มโชเฟอร์รถบรรทุกและรถเทรลเลอร์นั้น บก.ปคม.มีข้อมูลว่า คนกลุ่มนี้มักซื้อบริการตามข้างทาง ที่เป็นจุดพักรถตามจังหวัดต่างๆ ร้านคาราโอเกะ ร้านอาหาร หรือร้านขายพวงมาลัยข้างทางที่แฝงการค้าประเวณี จากนั้นก็เจรจาติดต่อซื้อขายกันโดยตรง หรือโทรศัพท์ผ่านนกต่อ ซึ่งในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา ก็มีจุดพักรถของรถดังกล่าว ก็ต้องตรวจสอบต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พ่อน้องหญิง” แจ้งข้อหา “อ๊อฟ”ฆ่าคนตายโดยเจตนา