ปีนี้น้ำมาก ริมโขงเตรียมรับน้ำสูง 1 เมตร

2018-08-02 10:40:47

ปีนี้น้ำมาก ริมโขงเตรียมรับน้ำสูง 1 เมตร

Advertisement

เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เผยกำลังขอข้อมูลการระบายน้ำจากจีนและลาวเพื่อเตรียมรับมือน้ำท่วม ยอมรับสถานการณ์น้ำสูงเท่าปี 2554 พื้นที่ริมโขงเตรียมรับมือน้ำสูงขึ้นอีก 1 เมตร

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยถึงการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำเฉพาะกิจ ซึ่งมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่า ที่ประชุมมีการวิเคราะห์ในเชิงลึก พบว่า มีอ่างเก็บน้ำจำนวน 1 แห่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ส่วนการเฝ้าระวังสามารถแยกเป็น 3 ส่วน คือ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดยใช้เกณฑ์พิจารณา ถ้าสูงกว่าเกณฑ์ทั้งของกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 11 แห่ง ซึ่งคาดการณ์ว่าอีก 1 เดือนข้างหน้า ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นจึงมีมาตรการจะพร่องน้ำ ซึ่งขณะนี้มี 2 เขื่อนที่ระดับน้ำสูงกว่า 90% คือ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร และเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษและเพิ่มปริมาณการปล่อยน้ำให้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ระบายน้ำภายใน 5 วัน แต่หากระบายน้ำไม่ทัน ให้หามาตรการควบคุมน้ำให้ได้ และหากน้ำลงมามากต้องดูแลพื้นที่ปลายน้ำ อีกทั้งก่อนการระบายน้ำหน่วยงานในพื้นที่ต้องแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า 3 วัน



นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ศูนย์ที่จัดตั้งขึ้นจะบูรณาการร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากมีการคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าในช่วงเดือนส.ค.นี้มีปริมาณน้ำไม่มาก แต่จากการติดตามสถานการณ์น้ำฝนพบว่ามีปริมาณน้ำฝนมากในพื้นที่ จ.จันทบุรีกว่า 200 มิลลิเมตร ส่วนภาคอิสาน ปริมาณน้ำในเขื่อนที่มีมากกว่า 100% ในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง มากกว่า 50 แห่ง ซึ่งต้องบริหารจัดการการระบายน้ำให้ดีและศูนย์ดังกล่าวจะวิเคราะห์ข้อมูลออกมาในแนวทางเดียวและจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 3 ส.ค. ส่วนเรื่องการพร่องน้ำมีการประชุมที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 1 ส.ค. เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ ทั้งนี้เขื่อนขนาดกลางและขนาดเล็ก กรมชลประทานจะเป็นผู้ดูแล ซึ่ง พล.อ.ฉัตรชัยได้สั่งการหน่วยงานที่สร้างเขื่อนเป็นผู้ดูแลในเชิงเทคนิคให้กับหน่วยงานในท้องถิ่น เกี่ยวกับจุดระบายน้ำฉุกเฉิน ซึ่งยังมีเวลาอีก 1-2 สัปดาห์ในการเตรียมการ จนกว่าจะมีการคาดการณ์ว่าพายุจะมาจึงจะเตรียมแผนเผชิญเหตุ




ส่วนกระแสข่าวว่าปีนี้มีปริมาณน้ำเทียบเท่าปี 2554 นั้น นายสมเกียรติ ระบุว่าปริมาณน้ำเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำโดยรวมที่สูงจริง แต่มีเพียงแค่บางแห่งในพื้นที่เขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ แต่อยู่ในปริมาณที่ควบคุมได้ ซึ่งกรมชลประทานได้เข้าไปบริหารจัดการการระบายน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำเข้า 2 เขื่อนนี้มากเกินไป ส่วนพื้นที่ภาคกลางก็ยังคงเฝ้าระวังน้ำอยู่ โดยอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กความแข็งแรงยังดีอยู่ แต่ต้องเตรียมความพร้อมเรื่องคันดินเพราะจุดที่เปราะบางคือปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามากว่าความจุของอ่าง โดยการระบายผ่านคันดินที่ไม่เปราะบาง ซึ่งได้สำรวจไว้หมดแล้ว



ส่วนสถานการณ์น้ำริมแม่น้ำโขง เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ ปริมาณฝนที่ตกในฝั่งลาว และการระบายน้ำที่มีปัญหาในฝั่งไทย เพราะฝนที่ตกในฝั่งลาวทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นมาที่จังหวัดฝั่งไทย คือ เลย อุบลราชธานี หนองคาย มุกดาหาร และนครพนม จำเป็นต้องแจ้งเตือนเพราะปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้น 70 เซ็นติเมตร ถึง 1 เมตร โดยขณะนี้ได้ประสานไปยัง ลาวและจีนเพื่อขอข้อมูลการระบายน้ำแล้ว เพื่อจะได้ทราบและเตรียมรับมือทัน ส่วนสถานการณ์เรื่องน้ำในประทศไทยขณะนี้อยู่ในโซนสีเหลือง ที่มีการเตรียมพร้อมในขณะนี้