ชาวลาว ซึ่งไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันจากเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อย แตกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในแขวงอัตตะปือ ภาคใต้ของประเทศ ได้รับความช่วยเหลืออย่างล้นหลาม ขณะพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว แต่พวกเขาก็ยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต
เนื่องจากยังมีขบวนรถยนต์นำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ถนนและสะพานในแขวงอัตตะปือ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก รัฐบาลท้องถิ่น ก็พยายามที่จะเข้าไปซ่อมแซมให้ใช้การได้ เพื่อรับประกันว่า การลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์จะถึงมือประชาชนผู้เดือดร้อน
ในเขตสนามไซ ที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด มีโรงเรียน 5 แห่งและอาคารรัฐบาลในท้องถิ่น ถูกแปรสภาพเป็นที่พักพิงชั่วคราว เพื่อรองรับประชาชนกว่า 3,700 คน ซึ่งก็มีรถยนต์นำสิ่งของบรรเทาทุกข์มาช่วยประชาชนทุกวัน
ชาวบ้านคนหนึ่งในศูนย์ผู้อพยพ กล่าวว่า รัฐบาลจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ประสบภัย และทุกหน่วยงานกำลังทำงานช่วยเหลือประชาชน หลายประเทศทั้งจีน ไทยและเวียดนาม ก็ให้ความช่วยเหลือ การใช้ชีวิตในศูนย์พักพิงถือว่าน่าพอใจ แต่ผู้ประสบภัยก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคต เพราะน้ำท่วมครั้งนี้ กระแสน้ำกวาดทุกสิ่งทุกอย่างไปจากบ้านเกือบหมด ทุกสิ่งดีมากที่ศูนย์พักพิง แต่ที่บ้านแทบจะว่างเปล่า ไม่เหลืออะไรเลย ผู้ประสบภัยคงไม่ได้รับความช่วยเหลือแล้ว หลังจากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน
รายงานข่าวระบุว่า ขณะที่ ระดับน้ำเริ่มลดลงเรื่อย ๆ รถยนต์ก็สามารถเข้าถึงหมู่บ้านที่อยู่ในที่สูง และชาวบ้านบางคนก็เดินทางกลับไปบ้านแล้วเพื่อทำความสะอาด ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ภัยก็เริ่มฉีดยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่น้ำท่วมเพื่อป้องกันโรคระบาด
ทั้งนี้ มีประชาชนมากกว่า 6,600 คน ไร้ที่อยู่อาศัย หลังจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่ม ส่วนใหญ่ก็อพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง ขณะที่ภารกิจการกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ก็ใกล้สิ้นสุดแล้ว