“โจ้”แถลงโต้ไม่ได้แทงลูกชายลุงดิ่งศาล

2018-07-26 15:45:09

“โจ้”แถลงโต้ไม่ได้แทงลูกชายลุงดิ่งศาล

Advertisement

“โจ้”จำเลยคดีแทง "เต้" นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีอุเทนถวายตายเมื่อสงกรานต์ปี 2559 ยันเตะต่อยกันจริง แต่ไม่ได้ลงมือแทง เหตุตอนชุลมุนออกมาก่อน ด้านแฟนสาวเผย “เบนซ์”ซึ่งเป็นเยาวชนเป็นคนแทง

จากกรณีนายศุภชัย คัฬหสุนทร อายุ 52 ปี กระโดดอาคารศาลอาญา ลงมาเสียชีวิต หลังฟังคำพิพากษาศาลยกฟ้อง นายณัฐพงศ์ หรือ โจ้ จำเลยคดีแทงบุตรชาย นายธนิต ทัฬหสุนทร หรือ เต้ นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีอุเทนถวาย ในซอยประชาสงเคราะห์ 1 เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2559 เสียชีวิต

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ก.ค. นายณัฐพงศ์ หรือ โจ้ พร้อมด้วย แฟนสาว และมารดา ได้นั่งแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยนายโจ้ เล่าว่า ตรงจุดเกิดเหตุมีการจัดงานอยู่แล้ว ในวันที่ 15 เม.ย.2559 ผมไปกับแฟนขี่มอเตอร์ไซค์ไป ออกจากบ้านประมาณ 1 ทุ่มใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-20 นาที ผมเห็นคนโวยวาย ด้านขวาของผมมีคนโดนตบหน้า 1 คนแต่ผมไม่ได้สนใจ มาทราบภายหลังว่าชื่อนายเบนซ์ คนตบหน้าคือนายเต้ ผู้ตาย จากนั้นมีญาติของนายโฟล์ค เป็นน้องที่ผมรู้จักมีบ้านอยู่แถวนั้น มาเคลียร์ พวกนั้นเขามาด้วยกันหมดเลย เต้ ตง และเบนซ์ แต่ผมไม่รู้จักมาก่อน เพิ่งเคยเห็นหน้าวันนั้นเป็นวันแรก ผมรู้จักแค่โฟล์คคนเดียว





นายโจ้ กล่าวต่อว่า อาแหม่ม คือญาติของโฟล์คได้เข้ามาเตือนว่ามาด้วยกันจะมีเรื่องกันทำไม ที่เห็นนายเต้ยกมือไหว้ผู้ก่อเหตุ คือ ผู้หญิง ไม่ใช่มาไหว้ผม ไม่เกี่ยวกับพวกผม เพราะอาแหม่มให้เขาไปคุยกัน สักพักพวกเขาเดินไปเคลียร์กัน แต่ผมอยู่หน้าปากซอยปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวกับผม และผมชวนน้องรู้จักไปฉี่ มีมุมฉี่ตรงตู้โทรศัพท์ และสั่งลูกชิ้นกิน โดยยืนกินตรงเบาะมอเตอร์ไซค์ของผม พอกินไปสักพักได้ยินคนชื่อตง และเบนซ์คุยกันอยู่แต่ เต้ไม่อยู่แล้ว

“นายตงได้ถามเบนซ์ว่ามึงคาใจอะไรมันหรือเปล่าที่โดนตบหน้า ถ้าไม่พอใจมึงบอกกูเดี๋ยวช่วยมึงเอง ผมก็ไม่สนใจและออกมาหน้าปากซอย แฟนผมจะนั่งอยู่ฟุตปาธข้าง ๆ จากนั้นนายเต้ได้เดินมาหาผมบอกว่า แฟนมึงมองหน้ากูมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ผมบอกมาเล่นน้ำ ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร สักพักเขาโวยวายไม่พอใจ สักพักมีเพื่อนเขา 2 คนมาดึงตัวเขาออกไป ผมเลยเรียกแฟนมาถามว่าไปมองหน้าเขาหรือเปล่า แฟนก็บอกไม่ได้มอง ไม่ได้อะไรเลย พอเห็นท่าไม่ดีก็เลยชวยกันกลับบ้านกันดีกว่า”นายโจ้ กล่าว



แฟนสาวนายโจ้ กล่าวเสริมว่า เขามีท่าทางหงุดหงิดหนูก็เลยชวนแฟนกลับบ้านดีกว่า น่าจะไม่ดีแล้วแหละถ้าอยู่นาน ๆ

นายโจ้ เล่าต่อว่า พอแฟนชวนกลับบ้านผมก็เข้าไปที่จอดมอเตอร์ไซค์ในซอยเพื่อขี่กลับบ้าน หลังจากนั้นผู้ตายคือนายเต้ เดินเข้ามาหาผมอีกบอกว่าแฟนมึงมองหน้ากูมี...อะไรหรือเปล่า อันนี้คือครั้งที่ 2 ผมก็ลงจากมอเตอร์ไซค์และเถียงกัน เถียงกันไม่ถึง 1 นาที ผมต่อยเขาก่อน ต่อยเขาทีนึง เตะเขาทีนึง เขาต่อยผม เตะผมเหมือนกัน สักพักมีอาแหม่มมาดึงผมให้ออกมา พอดึงผมออกพยายามให้ผมไปด้านหลังซอย สักพักจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาจากหน้าปากซอย เหตุการณ์ตะลุมบอนเกิดขึ้นไม่ถึง 1 นาที แต่กว่าจะตะลุมบอน ผมได้ออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะอาแหม่มยืนอยู่กับผมตลอดเวลา สำหรับผู้ก่อเหตุที่เข้าไปรุมทำร้ายนายเต้ผมไม่รู้จักสักคน ผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มด้วย ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น แฟนผมยังอยู่ตรงมอเตอร์ไซค์  ผมตะโกนให้มาเอากุญแจมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ผมไม่ได้กลับทางด้านหน้า ผมกลับทางหลัง เพราะอาแหม่มเป็นห่วงกลัวเจอกันจะปะทะกันอีก แฟนอยู่ด้วยตลอด อาแหม่มก็เป็นพยานให้ได้

นายโจ้ กล่าวอีกว่า มีบางข่าวไปลงว่าตอนจับผมมีนายเบนซ์อยู่ด้วยไม่เป็นความจริงเลยครับ ผมไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยคุยกันแม้แต่คำเดียว เมื่อถามว่าตอนชุลมุนมีคนบอกว่าโจ้อยู่ด้วย นายโจ้ กล่าวว่า อันนั้นเป็นคำให้การ แต่ผมยืนยันว่า อยู่ข้างซอยกับอาแหม่ม เหตุการณ์ตะลุมบอนเกิดหลังจากเขาดึงผมออกมาแล้ว



นายโจ้ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปนั่งกินหมูกะทะ และทางตำรวจได้มาจับกุม ประมาณ ตี 3- 4 บอกว่ามันตายแล้ว ผมก็งงว่าเขาพูดถึงอะไร แต่ผมบอกว่าผมต่อยเตะจริงแต่ไม่ได้ใช้อาวุธ ตำรวจก็พาผมมาที่ สน. ตอนแรกเขาจะให้ผมเป็นพยาน แต่ผมกลับเป็นจำเลย เป็นผู้ต้องหา สำหรับขั้นตอนการชี้ตัวมีผมอยู่แค่คนเดียว คนมาชี้ตัวผมคือนายตง และในห้องชี้ตัวมีผมคนเดียว ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย ถ้าผมเป็นคนทำผมจะไปนั่งกินหมูกระทะหรือ

เมื่อถามว่าทำไมเบนซ์จึงซัดทอดมาที่โจ้ นายโจ้ กล่าวว่า คงคิดว่าผมกับเต้ต่อยกัน คงเป็นสาเหตุว่า เบนซ์ซัดทอดมาถึงผม ส่วนที่มีการใส่ร้ายผมว่าทำไมไม่เอาเสื้อผ้าผมไม่ตรวจนั้น เพราะว่าวันที่ผมโดนจับ และวันที่ผมอยู่ สน.ชุดเดิม ไม่มีการเปลี่ยนชุด คราบแป้งยังติดอยู่

แฟนสาวนายโจ้ กล่าวว่า ระหว่างที่จะเอารถมอเตอร์ไซค์ออก นายเบนซ์ ได้วิ่งมาหาหนูบอกว่า พี่ผมเป็นคนแทง มือเปื้อนเลือดด้วย ถามว่าพี่จะไปไหน หนูบอกว่าจะกลับแล้ว นายเบนซ์ถามว่าผมไปด้วยได้ไหม ด้วยความไม่รู้จักกันก็บอกว่าไปไม่ได้ จากนั้นก็เอารถไปรับแฟนด้านหลังกลับ เขามาพูดกับหนูว่าเขาเป็นคนแทง หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้ติดต่อกับนายเบนซ์

เมื่อถามว่า มีภาพเบนซ์บวชแล้วมีภาพโจ้อยู่ด้วย นายโจ้ กล่าวว่า คนที่บวชคือบอส เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม เบนซ์ไม่รู้จัก คือใครก็ไม่รู้ ต่อข้อถามว่าเขาบอกว่าเราเป็นผู้มีอิทธิพล นายโจ้ กล่าวว่า ดูสภาพผม ความเป็นอยู่บ้านผม พ่อผมเป็นอยู่แบบนี้เพราะเครียด ผมสู้ด้วยความบริสุทธิ์มาเกือบ 2 ปี พี่ ๆ ไปถามแถวนี้ว่าครอบครัวผมเป็นอย่างไร ที่ใส่ร้ายว่าเป็นผู้มีอิทธิพลปล่อยเงินกู้จะอยู่แบบนี้หรือ ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขู่อีกฝ่าย พอศาลตัดสินผมก็ร้องไห้ทั้งน้ำตา กล้องวงจรปิด ผมก็อยากได้นะผมสู้ด้วยความบริสุทธิ์ เพราะผมไม่ได้เป็นทำ แต่วันนี้ผมเป็นจำเลยสังคม และยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสถาบันการศึกษา



แฟนสาวนายโจ้ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ออกไปไหนต้องระวังตัวอยู่แล้ว พอตัดสินออกมาแบบนี้ยิ่งต้องระวังตัวใหญ่ คือ ก่อนหน้านี้มีกลุ่มวัยรุ่นมามองที่บ้าน พี่คิดดูว่าครอบครัวจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะโดนทั้งสังคม และวัยรุ่นเลือดร้อน เข้าใจผิดกัน