สิ้นใจแล้วหญิงสาวชาวม้งถูกหลอกไปขืนใจถ่ายรูปแบล็กเมล์ “อัจฉริยะ” จี้ตำรวจเร่งออกหมายจับอดีตผู้ใหญ่บ้าน
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาวชาวม้ง อายุ 22 ปี ชาว อ.งาว จ.ลำปาง เสียชีวิตแล้ว ภายหลังกินยาฆ่าแมลงเพื่อหวังฆ่าตัวตาย หลังถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งใน อ.พบพระ จ.ตาก ล่อลวงไปกระทำชำเราด้วยการข่มขืนร่วมกับชายอีก 3 คน ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมถูกถ่ายภาพไว้ด้วย และมีการส่งภาพดังกล่าวไปให้หญิงคนดังกล่าวจนเกิดความอับอาย สำนึกผิดต่อครอบครัวจึงตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตายในทันที อาการสาหัสต้องนอนพักรักษาตัวที่บริเวณชั้น 8 ตึกสิทธิเกษม รพ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 21ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางแพทย์นิติเวชจะทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งในวันที่ 26 ก.ค.ก่อนให้ทางญาตินำร่างไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
ด้าน อาของหญิงสาวชาวม้ง เล่าว่า ก่อนที่หลานสาวจะสิ้นลมหายใจ แพทย์ได้นำตัวไปที่ห้องเอ็กซเรย์ เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการหายใจติดขัด โดยให้ญาติเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใส่ท่อช่วยหายใจหรือไม่ แต่ทางญาติดูแล้วว่าร่างกายของน้องไม่ไหวแล้ว เนื่องจากตั้งแต่บริเวณลำคอจนถึงลำไส้ รวมถึงอวัยวะสำคัญภายในได้ถูกทำลายไปหมดแล้วเนื่องจากพิษของยาฆ่าแมลง เมื่อนำตัวกลับมาที่หอผู้ป่วยได้ไม่ถึง 20 นาทีน้องก็ได้สิ้นลมจากไปอย่างสงบท่ามกลางบรรดาญาติที่อยู่บริเวณนั้นซึ่งสร้างความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก จากนี้จะนำร่างไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชนเผ่าซึ่งจะทำพิธีที่บ้านสามีใน จ.ลำปาง ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม กได้เปิดเผยถึงเรื่องคดีความซึ่งถึงแม้ผู้เสียหายจะเสียชีวิตไปแล้ว การดำเนินคดีก็ต้องดำเนินต่อไปให้ถึงที่สุด เพราะทางผู้เสียชีวิตได้มอบอำนาจในการดำเนินการต่างๆไว้ตั้งแต่ยังไม่เสียชีวิตแล้ว ซึ่งในวันที่ 26 ก.ค.จะได้ไปติดตามให้ทาง สภ.เมืองลำปาง ได้เร่งออกหมายจับตัวอดีตผู้ใหญ่บ้านใน อ.พบพระ จ.ตาก ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีกฎหมายให้ได้ซึ่งตอนนี้เชื่อว่าน่าจะหลบหนีไปแล้ว ทั้งนี้ตนมีโอกาสได้เข้าเยี่ยมพร้อมทั้งพูดคุยสอบถามกับทางเหยื่อหญิงสาวก่อนที่จะเสียชีวิตร่วมกับทางญาติ ซึ่งก็ได้ความว่าในวันเกิดเหตุมีเพียงอดีตผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นที่ลงมือก่อเหตุ โดยเป็นการล่อลวงผ่านทางเฟซบุ๊กซึ่งเหยื่อสาวได้ติดต่อขอซื้อยาสมุนไพรจากอดีตผู้ใหญ่บ้าน และได้นัดส่งมอบในตัวเมืองลำปางก่อนจะออกอุบายล่อลวงไปยังอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งและลงมือก่อเหตุข่มขืนเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนชายอีก 3 คนได้มาเจอหลังออกจากอพาร์ตเมนต์ซึ่งที่บอกว่าถูกรุมโทรมทีแรกนั้นเป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิดของทางญาติ เพราะใช้ภาษามือในการพูดคุยกันจึงทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไป
