ญี่ปุ่นร้อนตับแตก เป็นลมแดดตายแล้ว 80 ศพ

2018-07-25 08:00:03

ญี่ปุ่นร้อนตับแตก เป็นลมแดดตายแล้ว 80 ศพ

Advertisement

คลื่นร้อนยังกระหน่ำทั่วญี่ปุ่น ประกาศภัยพิบัติทางธรรมชาติ และร้อนตายแล้วอย่างน้อย 80 ศพ ป่วยลมแดดเข้าโรงพยาบาลกว่า 20,000 คน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ประกาศให้คลื่นความร้อนที่ปกคลุมทั่วประเทศในขณะนี้ เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 80 ราย ล่าสุดเมื่อวานนี้ มีผู้ป่วยโรคลมแดดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพิ่มอีกกว่า 1,830 คน แต่ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 8 ราย โดย 4 คนในจังหวัดไอชิ ภาคกลางของประเทศ และยามากูชิ, คากาวา, เอฮิเมะ และโคชิ ทางตะวันตกของประเทศ จังหวัดละ 1 คน โฆษกสำนักงานอุตุฯญี่ปุ่น เตือนว่า ระดับความร้อนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีประชาชนมากกว่า 22,000 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจากโรคลมแดด เกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ




เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในเมืองคูมากายา รายงานว่า อุณหภูมิสูงถึง 41.1 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศบอกว่า คลื่นความร้อนยังไม่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง ส่วนในกรุงโตเกียว เมืองหลวง อุณหภูมิก็ยังอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการบันทึกสถิติเช่นกัน

สำนักงานอุตุฯ เตือนว่า อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส จะยังคงมีไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม



นอกจากนี้ วิกฤตอากาศร้อน ยังกระตุ้นให้สื่อต่างชาติแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี 2020 ในกรุงโตเกียว โดยวอลล์ สตรีท เจอร์นัล ลงบทความเมื่อวันอังคารเกี่ยวกับความร้อนในญี่ปุ่นว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบคน เนื้อหาบอกว่า คลื่นความร้อนเพิ่มความกังวลต่อสุขภาพของนักกีฬาและผู้ชมในโอลิมปิกส์ฤดูร้อน และยังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับช่วงเวลาของการแข่งขัน ซึ่งจะจัดขึ้นจากปลายเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ยังอ้างอีกว่า เมื่อกรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกส์ครั้งแรกในปี 2507 พวกเขาจัดในเดือนตุลาคม เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อน และยังรายงานด้วยว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งหน้า ในปี 2022 หรือพ.ศ. 2565 ในกาตาร์ ก็ขยับไปเป็นสิ้นปี เนื่องจากกังวลปัญหาสภาพอากาศร้อน

ส่วนเดอะ การ์เดียน ของอังกฤษ ระบุว่า คลื่นความร้อนญี่ปุ่น ซึ่งพุ่งสูงทำลายสถิติ สร้างความกังวลต่อการแข่งขันโอลิมปิกส์ 2020 เนื่องจากจุดชนวนให้เกิดความกลัวว่ามีความป็นไปได้ที่จะเกิดอันตรายต่อนักกีฬาและผู้ชม