การแสดงของ “เสือ ธนพล” ในคอนเสิร์ต “เด็กเทป 2” กลายเป็นกระแสร้อนเมื่อมีเพลงฮิตยุคอาร์เอสไม่อยู่ในลิสต์การแสดงด้วย กระทั่งเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เผ็ดร้อนถึงค่าลิขสิทธิ์สุดโหด
ภาพ @bigpigs
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ คอนเสิร์ต “เด็กเทป 2” ที่ JJ Mall Hall เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ท่ามกลางความประทับใจนั้นก็เกิดดราม่าขึ้นทั้งในหมู่ผู้ชม และบรรดาศิลปินที่มาร่วมงาน สำหรับการแสดงของ เสือ-ธนพล อินทฤทธิ์ กับหลากหลายข้อความที่ถูกโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่ามีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในการแสดงวันนั้น โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า ไม่มีการเล่นเพลงฮิตในยุคแรกสมัยอยู่ค่ายอาร์เอสเลย อาทิ ชีวิตหนี้, กระดาษห่อไฟ หรือ เก็บไว้นานๆ
ภาพ Facebook: Polkit Wiriyanuphap
ไม่ว่าจะเป็น เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ มือกีตาร์วง Pause ที่แสดงในคอนเสิร์ตเดียวกันด้วย โดย “เอ” ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังจากคอนเสิร์ต “เด็กเทป 2” ผ่านไปได้ไม่นานว่า
“ผมไม่สบายใจเลยเมื่อรู้ว่าพี่เสือ ไม่สามารถร้องเพลง. ที่เขียนเอง ในงานคอนเสิร์ตได้. เราต้องทบทวนใหม่แล้ว ...มันเป็นความอยุติธรรม. สำหรับคนที่เขียนเพลงสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนนับล้าน”
ขณะที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Nong Sriubon” ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นเดียวกันนี้เช่นกันว่า
“เพิ่งทราบข่าวว่า“พี่เสือ”ลงเวทีเด็กเทป2มาแล้วร้องไห้เพราะเล่นเพลงบางเพลงของตัวเองจากทางฝั่งลาดพร้าวไม่ได้ “พี่เสือ”เสียใจที่แฟนๆอยากฟังแต่แกร้องไม่ได้ “พี่เสือ”กลัวว่าจะทำงานเค๊าล่มกลัวจะทำงานเค๊าไม่สนุกเพราะเพลงดังๆบางส่วนอยู่ฝั่งลาดพร้าวแต่ผมว่าแฟนๆเข้าใจ”พี่เสือ”ครับ สู้ต่อไปครับพี่
และนี้แหละคือจุดบอดของวงการเพลงไทย ทั้งๆที่ทางงานติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์แล้วแต่ทางนั้นขายเพลงละเป็นแสน เพลงก็ทำเอง ทำนองเนื้อร้องก็ทำเองแต่เอาเพลงที่ทำเองมาร้องไปได้...”
โดยแต่ละสเตตัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ของแต่ละคนล้วนแต่มีคนมาแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงเป็นจำนวนมาก โดยพุ่งเป้าไปที่ค่ายเพลงที่คาดเดาว่าน่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้นักร้องคนดังเสียน้ำตา
ภาพ Facebook: Thanapon Intharit
อย่างไรก็ดี ในที่สุด ฝ่ายคนต้นเรื่อง “เสือ ธนพล” ก็ได้ออกมาสยบทรรศนะอันร้อนแรงด้วยการโพสต์ชี้แจงในเฟซบุ๊กส่วนตัวคือ “Thanapon Intharit” โดยระบุว่ายังสามารถร้องเพลงของตนเองสมัยที่เป็นศิลปินสังกัดค่ายอาร์เอสได้เหมือนเช่นเดิม พร้อมยืนยันว่ายังให้ความเคารพอาร์เอสและเฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้บริหารอยู่เหมือนเช่นเดิม เช่นเดียวกับที่ยังรักกันดีกับค่ายจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ที่ตนได้เป็นศิลปินในสังกัดเป็นเวลานานนับสิบปี หลังจากออกจากอาร์เอสมาแล้ว
“สวัสดีครับ พี่เสือนะครับ
ขออนุญาติเขียนจากความจริงๆของตัวผม ไม่อยากให้เป็นดราม่าครับ
ผมขอบคุณจากใจจริงๆ ผมเกิดจาก RS เป็นเสือได้จนทุกวันนี้ก็เพราะเฮียและทุกคนในRSยังให้ความรักเมตตาผม เฮียยังให้ผมร้องเพลงของผมได้ครับในงานการกุศล,งานจ้างคอนเสิร์ททั่วไป ผมไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหากับRSเลย ตอนออกมาก็เป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานครับ ผมไม่เคยลืมบุญคุณนี้ตลอดไป และนี่คือความจริง จากใจเลยนะครับผมอยู่มา10ปีเรียนรู้มากมายเฮียสอนมากมาย เวลาRSโดนว่า ผมรู้สึกโดนไปด้วยครับ