เกาหลีเหนือและสหรัฐ เป็นศัตรูกันมายาวนานกว่า 60 ปี การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่ประเทศสิงคโปร์ในวันอังคารที่ 12 มิถุนายนนี้ จะสามารถเจือจางความขัดแย้งยาวนาน ไปสู่เส้นทางแห่งสันติภาพได้หรือไม่ แต่ก่อนถึงวันที่ 12 มิถุนายน เราไปดูเส้นทางก่อนถึงการประชุม ยากเย็น ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ
"ทุกหย่อมหญ้าในสหรัฐ อยู่ภายในรัศมีการโจมตีของอาวุธนิวเคลียร์ และปุ่มกดนิวเคลียร์ก็อยู่ที่โต๊ะทำงานของผมตลอดเวลา นี้เป็นเรื่องจริง ไม่ได้ขู่" ความตึงเครียดร้อนระอุไปทั่วคาบสมุทรเกาหลีลุกลามข้ามทวีปไปไกลถึงสหรัฐทันที หลังคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาเตือนสหรัฐในการกล่าวสุนทรพจน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวด้วยว่า เขามีปุ่มนิวเคลียร์อยู่บนโต๊ะทำงานพร้อมใช้งานทันทีหากเกาหลีเหนือถูกคุกคาม แต่คิม กลับทอดไมตรีไปยังเกาหลีใต้ โดยบอกว่า เขาเปิดกว้างที่จะเจรจากับรัฐบาลกรุงโซล
หลังจากทำสงครามน้ำลายตอบโต้กันไปมาและความตึงเครียดยิ่งขยายวงกว้างกรณีโครงการนิวเคลียร์ของเปียงยาง คิมได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ เพื่อประกาศว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศรัก "สันติภาพและมีความรับผิดชอบเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ และเรียกร้องให้ลดความตึงเครียดทางทหารและปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้
จากนั้น คิม โย จอง น้องสาวของคิม จอง อึน และคณะผู้แทนเจรจาของเธอ ซึ่งรวมทั้งคิม ยัง นัม ผู้นำด้านพิธีการ ก็เดินทางเยือนเกาหลีใต้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ในเมืองเปียงชาง ของเกาหลีใต้ ทำให้คิม โย จอง เป็นสมาชิกคนแรกของตระกูลผู้นำเกาหลีเหนือที่เดินทางเยือนเกาหลีใต้ ขณะที่ คิม ยัง นัม ก็เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่ข้ามพรมแดนเยือนเกาหลีใต้ในเวลาเดียวกัน
คณะผู้แทนเจรจาเกาหลีใต้ ซึ่งนำโดยนายชุง อุย-ยัง ประธานสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เข้าพบหารือกับคิม จอง อึน ในกรุงเปียงยาง เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อผลักดันให้เกาหลีเหนือและสหรัฐเปิดการเจรจากัน เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของเกาหลีใต้ที่ได้พบหารือกับคิม จอง อึน ตั้งแต่เขาก้าวขึ้นสู่อำนาจ ในช่วงปลายปี 2554 หลังนายคิม จอง อิล บิดา ถึงแก่อสัญกรรม
คิม จอง อึน นั่งรถไฟข้ามพรมแดนเยือนจีนในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เดินทางออกนอกเกาหลีเหนือตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ คิมให้คำมั่นยังยึดมั่นพันธสัญญาในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และพบหารือกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ซึ่งป็นการแถลงของจีนหลังการประชุมกันระหว่างคิม กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งก็สัญญาว่า จีนจะยังคงเป็นมิตรประเทศกับเกาหลีเหนือต่อไป
จากนั้น คิม จอง อึน และรี ซอล จู ภริยา พร้อมกับเจ้าหน้าที่และแขกหลายร้อยคน เข้าร่วมชมการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องเค-ป๊อป ชื่อดัง ในกรุงเปียงยาง เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 10 ปี ขณะที่ ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ ดีขึ้นมาก มันเป็นครั้งแรกที่ผู้นำเกาหลีเหนือเข้าร่วมชมคอนเสิร์ตของนักร้องเกาหลีใต้ในกรุงเปียงยาง ซึ่งมีภาพ คิม จอง อึน ร้องคลอตามนักร้องไปด้วย และยังได้ถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มนักร้องหลังการแสดงจบลง ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่อบอุ่นขึ้น
และความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ ก็เกิดขึ้น เมื่อคิม จอง อึน และประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ จัดการประชุมกันครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านปันมุนจิม เขตปลอดทหารบริเวณพรมแดน 2 ประเทศ ซึ่งผู้นำ 2 เกาหลีใต้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดสิ้นไปจากคาบสมุทรเกาหลี และประกาศว่า พวกเขาจะทำงานหนักร่วมกับสหรัฐและจีน เพื่อประกาศยุติสงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1950 อย่างเป็นทางการด้วย และยังต้องการบรรลุข้อตกลงเพื่อสถาปนาข้อตกลงสันติภาพฉบับ "ถาวร" และ "ยั่งยืน" มาใช้แทน
คิม จอง อึน ตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาอีกครั้ง ด้วยการเยือนเมืองต้าเหลียนของจีนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีสี ซึ่งเป็นการพบกันเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่อบอุ่นระหว่างพันธมิตรในช่วงสงครามเย็น การเจรจาในเมืองต้าเหลียน เมืองชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจีนครั้งนี้ มีขึ้นขณะที่ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี กรณีโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ผ่อนคลายลง ก่อนการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างคิมกับทรัมป์
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ก็ได้พบหารือกับคิม จอง อึน ในกรุงเปียงยาง ก่อนการประชุมคิม-ทรัมป์ ซึ่งหลังการเจรจากัน เกาหลีเหนือก็ยอมปล่อยตัวนักโทษชาวอเมริกัน 3 คน และมอบตัวให้กับนายปอมเปโอ ปลดล็อกอุปสรรคสำคัญที่อาจขัดขวางการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง 2 ผู้นำ
จากนั้น เกาหลีเหนือก็แถลงเรื่องการรื้อทำลายสถานที่ทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินปุงเก-รี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เพื่อยืนยันความจริงใจที่จะไม่ทดลองนิวเคลียร์อีกต่อไป ทั้งนี้ เกาหลีเหนือทำการทดลองนิวเคลียร์ทั้งหมด 6 ครั้ง ที่ปุงเก-รี ซึ่งขุดเป็นอุโมงค์ใต้ภูเขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ สร้างความประหลาดใจด้วยการจัดประชุมรอบ 2 กับคิม จอง อึนเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม เพื่อรับประกันว่า การประชุมสุดยอดระหว่างคิม จอง อึน กับทรัมป์ จะเดินหน้าต่อไปด้วยความสำเร็จ ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนที่ชุดเจนที่สุดว่า การประชุมจะต้องเกิดขึ้นตามกำหนดที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
มาดูประวัติคร่าว ๆ ของคิม จอง อึน สักเล็กน้อย คิม จอง อึน เชื่อว่าเกิดในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 จบการศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ หลังคิม จอง อิล ผู้เป็นบิดา ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจล้มเหลวในปี 2554 และหนึ่งปีหลังเข้ารับตำแหน่ง เกาหลีเหนือก็ทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล ในปี 2555 เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า คิม เป็นผู้นำคนใหม่และถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม
คิม แต่งงานกับรี ซอล จู ซึ่งเชื่อว่าเป็นนักร้องอาชีพ จากการเปิดเผยของเดนนิส ร็อดแมน อดีตนักบัสเกตบอลชื่อดังของสหรัฐ ที่ได้เข้าพบกับคิมในปี 2557 คิมและรีมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน คือ "จู-แอ"
แม้ว่าจะถูกนานาชาติประณามและคว่ำบาตร เกาหลีเหนือก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ ที่สามารถยิงโจมตีได้ไกลถึงสหรัฐ
ในส่วนประเด็นการประชุม ก็คงไม่พ้น ปัญหาโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ที่หลายฝ่ายอยากให้เกิดขึ้น
ต้องรอลุ้นติดตามกันในวันพรุ่งนี้ ว่าผลการประชุมระหว่างคิมกับทรัมป์ จะออกหัวหรือก้อย