พบหอยแมลงภู่ตายในทะเลเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท คาดเกิดจากสาเหตุฝนตกชุก
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสุภาพ คงรักษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ.สมุทรสงครามว่า หอยแมลงภู่ในแปลงเพาะเลี้ยงในทะเลซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 3 กม.ของเกษตรกรในพื้นที่ ต.บางจะเกร็ง และพื้นที่ใกล้เคียง ตายเป็นจำนวนมากสร้างความเสียหายให้กับผู้เลี้ยงอย่างหนัก จึงนั่งเรือออกไปตรวจสอบ โดยตลอดทางจากฝั่งถึงจุดหมายพบน้ำทะเลขุ่นสีเข้มจากดินโคลน เมื่อไปถึงพบชาวบ้านได้นำหอยแมลงภู่ขึ้นมาให้ดูพบว่าหอยมีลักษณะปากอ้ามีกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
นายสุทิน กลิ่นอุดม อายุ 48 ปี ชาวตำบลบางจะเกร็ง กล่าวว่า ปกติตนมีอาชีพทำอวนลอย แต่มาเลี้ยงหอยแมลงภู่เป็นอาชีพเสริม ธรรมชาติน้ำเสียจะลงมาเดือน 10 หรือประมาณเดือน ต.ค. แต่จะเป็นเพราะที่ผ่านมาฝนตกหนักหรือใครลักลอบปล่อยน้ำเสียลงมาซึ่งตนก็ไม่ทราบ หอยแมลงภู่ที่เลี้ยงไว้อยู่ 5 ไร่ลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท ตายหมดไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว
นางสุภาพ คงรักษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวว่า ปัญหาเกิดขึ้นจากฝนตกเยอะและมาก่อนกำหนดซึ่งปกติช่วงนี้ใกล้ที่จะเก็บหอยขึ้นมาขายได้ แต่ผู้เลี้ยงหอยยังไม่ทันได้เก็บ หอยก็มาตายเสียก่อน ความเสียหายของผู้เลี้ยงหอยซึ่งมีเป็น 100ราย คาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จึงขอให้ทางราชการพิจารณาหาทางเยียวยาช่วยเหลือผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่ใน ต.บางจะเกร็งและตำบลใกล้เคียงที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้โดยเร็วด้วย
ต่อมาพันเอก ปิยะ เกียรติอมรเวช รองเสนาธิการมลทลทหารบกที่ 16, พันเอกจิระโรจน์ กองวารี รอง ผอ.รักษาความมั่นคงภายใน จ.สมุทรสงคราม,นางศศิวิมล เปาลิวัฒน์ ประมงจังหวัดสมุทรสงครามพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาหอยตายดังกล่าวพร้อมเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง
นางศศิวิมล ชี้แจงกับชาวบ้านว่า เมื่อเกิดปัญหาขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่และเก็บตัวอย่างน้ำไว้เพราะเจ้าหน้าที่อาจลงมาไม่ทันการณ์ เนื่องจากปัญหาน้ำขึ้นน้ำลงทำให้การตรวจในเวลาต่อมาคลาดเคลื่อน ส่วนสาเหตุที่หอยตายครั้งนี้เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากคุณภาพน้ำเปลี่ยนกะทันหันทำให้หอยซึ่งอาศัยอยู่กับที่ปรับตัวไม่ทันจึงตายลงอย่างไรก็ตามได้ให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บคุณภาพน้ำกลับไปตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อหาแนวทางให้ความช่วยเหลือต่อไปแล้ว