เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ระบุลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 7-10 มิ.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 มิ.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง
อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน “เอวิเนียร์” แล้ว และมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าปกคลุมมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ โดยพายุนี้ไม่มีผลโดยตรงต่อประเทศไทย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยในแต่ละภาคตลอดสัปดาห์
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงวันที่ 7-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 7-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในช่วงวันที่ 7-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หรืองดออกจากฝั่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงวันที่ 7-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11-12 มิ.ย. มีฝนลดลงเหลือร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส