แฉ! ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักกาฬสินธุ์ ปีละกว่า 20,000 ตัน

2018-06-06 17:40:58

แฉ! ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักกาฬสินธุ์ ปีละกว่า 20,000 ตัน

Advertisement

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักเข้ากาฬสินธุ์ปีละกว่า 20,000 ตัน ขณะที่ ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งนายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบป้องกัน พร้อมระบุเป็นความเคยชินในการประกอบอาชีพแบบไม่กลัวตาย ด้าน นายก อบต.โคกสะอาด ทวงถามโรงงานกำจัดขยะที่เคยรับปากจะมาก่อสร้างให้ประชาชน

จากกรณีอธิบดีกรมควบคุมโรคกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีปัญหาในเรื่องขยะรีไซเคิล หรือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะที่ จ.กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่แหล่งใหญ่เนื่องจากมีประชาชนประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอฆ้องชัย พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ชวีวัฒน์ ผกก.สภ.ฆ้องชัย นายศิริศักดิ์ บุญไชยแสน สาธารณสุขอำเภอฆ้องชัย นายวิจิต มูลเอก นายก อบต.โคกสะอาด พร้อมเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนลงพื้นที่ให้ความรู้และตรวจสอบปัญหาการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์กับชาวบ้านใน ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ หลังจากพบข้อมูลมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 1,200 ตันต่อเดือน เฉลี่ยตกปีละกว่า 2 หมื่นตัน เนื่องจากส่วนใหญ่ชาวบ้านยึดอาชีพตระเวนรับซื้อของเก่า โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้วนำมาทำการคัดแยกชิ้นส่วนขาย แต่กลับประสบปัญหาการกำจัดขยะเหลือและขยะที่ไม่มีค่าไม่ถูกวิธี และขาดสถานที่จัดเก็บมานานหลายสิบปี จนทำให้บ่อเก็บขยะเล็กทรอนิกส์ของทาง อบต.โคกสะอาดล้นและเกินขีดความสามารถในการกำจัด




นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ ต.โคกสะอาดมีทั้งหมด 12 หมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะยึดอาชีพตระเวนรับซื้อของเก่าทั่วประเทศ โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งโทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือแล้วนำมาคัดแยกชิ้นส่วนขาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ ต.โนนศิลาเลิง ที่รับซื้อของเก่าที่เป็นจำพวกเครื่องจักรและรถจักรยานยนต์มาแยกชิ้นส่วน ซึ่งหากรวม 2 พื้นที่ทำให้แต่ละเดือนมีขยะเหล่านี้มาเข้าในพื้นกว่า 1,200 ตันต่อเดือน หรือเฉลี่ยประมาณ 2 หมื่นตันต่อปี

ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เข้ามาให้ความรู้ในการคัดแยกขยะ โดยเฉพาะวิธีการป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีที่อยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเข้ามาดูแลและตรวจสุขภาพเพื่อเฝ้าระวัง ซึ่งปัจจุบันเท่าที่ติดตามสถานการณ์พบว่าปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนนั้นยังไม่พบว่ามีใครล้มป่วยจากการได้รับสารเคมีในการคัดแยกขยะ แต่เพื่อเป็นการป้องกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสุขภาพทุกปี และเฝ้าระวังการใช้ชีวิตอยู่กับขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะเด็ก แต่มีปัญหาในการคัดแยกขยะที่ไม่มีค่าแล้วนำไปกำจัดไม่ถูกวิธี บางรายลักลอบเผา รวมทั้งสถานที่เก็บขยะหรือบ่อขยะนั้นไม่เพียงพอต่อปริมาณขยะทะลักเข้ามาในแต่ละปี ดังนั้นทางอำเภอจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการรณรงค์ประชาชนสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่คัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์เสร็จแล้วให้นำไปทิ้งไว้ที่บ่อขยะ ห้ามคัดแยกโดยการเผาอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะขยะจำพวกโฟม พลาสติกและสายไฟ เพื่อไม่ให้กระทบในด้านสิ่งแวดล้อม



นายประสูตร กล่าวอีกว่า เท่าที่ตรวจสอบขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ชาวบ้านนำมาคัดแยกชิ้นส่วนนั้น จะเป็นการรับซื้อของเก่ามาจากครัวเรือนจากทั่วสารทิศ ไม่ได้เป็นการนำมาจากการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะการคัดแยกขยะในพื้นที่ ต.โคกสะอาดนั้นจะทำกันเป็นการสร้างอาชีพในครัวเรือน ไม่ได้ใหญ่โต และเป็นโรงงาน อีกทั้งสภาพหมู่บ้านก็ไม่ได้แออัดจึงยังไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากนัก

ด้านนายวิจิต มูลเอก นายก อบต.โคกสะอาด กล่าวว่า ชาวบ้านใน ต.โคกสะอาดประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์มานานแล้ว และส่วนใหญ่ยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัว เพราะการไปรับซื้อขยะแล้วนำมาคัดแยกนั้นสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี จนมีการขยายและสืบทอดการคัดแยกขยะไปยังลูกหลาน แต่ปัจจุบันกลับประสบปัญหาการกำจัดขยะที่เหลือจากการนำไปขายไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการกำจัดโฟม พลาสติก เหล็ก และเศษกระจก เพราะมีการลักลอบเผาและทำลายโดยไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้