โยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ ระบุพระธาตุสามหุนพังถล่มทำให้คนงานตาย 1 เจ็บ 4 นั้นอาจจะเกิดจากการก่อสร้างผิดแบบและมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุ รวมทั้งไม่มีวิศวกรเข้ารับรองความมั่นคงแข็งแรง
ความคืบหน้าเหตุพระธาตุสามหุนภายในวัดป่ากุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างต่อเติมเกิดการทรุดตัวและถล่มลงมา ทำให้คนงานก่อสร้างเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าสาเหตุที่พังถล่มลงมานั้นน่าจะเป็นการทำผิดผี เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีควันพวยพุ่งขึ้นมาบนหัวพระธาตุ ก่อนจะถล่มทับคนงาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 5 มิ.ย.นายวีระชัย แก้วหาวงษ์ โยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เท่าที่ดูจากภายนอกพบว่าเป็นตัวอาคารที่พังถล่มลงมา เนื่องจากเป็นการก่อสร้างแบบต่อเนื่อง คือเป็นการต่อเติมก่อสร้างจากอาคารเก่าที่ทำมาแล้วเรื่อยๆ เป็นช่วงๆ ตั้งแต่ปี 2557 โดยเป็นการก่อสร้างจะเป็นในลักษณะทรงหลังคาระฆังคว่ำ แต่เท่าที่ดูพบว่า ตัวเสาที่ค้ำนั้นมีความสูงถึง 13 เมตรเศษ ที่ไปรองรับหลังคานั้นมีขนาดเล็ก คาดว่าน่าจะไม่สามารถรองรับน้ำหนักตัวอาคารได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไปว่าวัสดุที่ใช้ก่อสร้างเสา ผนัง และหลังคา โดยเฉพาะการเสริมเหล็กภายในและปูนนั้นเหมาะสมกันหรือไม่ และทำตามหลักความปลอดภัยวิศวกรรมหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นน่าจะเป็นการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบหรือทำไม่ถูกแบบ แต่ด้วยความที่เป็นการก่อสร้างที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของทางราชการเข้าไปดูแล อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุในการก่อสร้างบางอย่างรวมทั้งตัวแบบการก่อสร้างเองก็ไม่มีวิศวกรเข้ารับรองความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งเท่าที่ทราบมีเพียงสถาปนิกเท่านั้นที่เป็นผู้ออกแบบ โดยที่ไม่มีการรับรอง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พังถล่มลงมาดังกล่าว
นอกจากนี้จะต้องเข้าไปตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของนั่งร้านด้วยว่าระหว่างการก่อสร้างมีความแข็งแรงที่จะช่วยค้ำยันระหว่างปูนเซ็ตตัวหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้หากตรวจสอบแล้วผู้รับจ้างก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่กระดูกแขน ขาหัก ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชกุฉินาราณ์
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่านายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ จะนำเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบสาเหตุของการก่อสร้างพระธาตุสามหุนที่พังถล่มลงมาอย่างละเอียดอีกครั้ง