แจ้ง 4 ข้อหาค้านประกันอดีตสามี ฆ่าเผานั่งยางเศรษฐีนีสงขลา

2018-06-04 12:00:27

แจ้ง 4 ข้อหาค้านประกันอดีตสามี ฆ่าเผานั่งยางเศรษฐีนีสงขลา

Advertisement

ตำรวจแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาฆ่าเผานั่งยางเศรษฐีนีนักธุรกิจขายตรงที่จ.สงขลา แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธแต่มีพยานหลักฐานชัดเจนเชื่อดิ้นไม่หลุด ถูกแจ้ง4 ข้อหาและคัดค้านการประกันตัว

ความคืบหน้าคดีฆ่าเผานั่งยาง น.ส.ภิญญดา แป้นจันทร์ อายุ 48 ปี หรือเจ้อ้อย เศรษฐีนีนักธุรกิจขายตรงและขายประกันที่ จ.สงขลา หลังจากที่นายกฤษฎา หรือโรจน์ ไหมขาว อายุ 49 ปี อดีตสามีได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เมื่อคืนนี้แต่ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (4มิ.ย.) ที่สภ.เมืองสงขลา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ภู่ภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 และพล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ได้ร่วมกันแถลงข่าวรายละเอียดของคดีนี้ แต่ผู้ต้องหาใช้สิทธิ์ไม่ขอเผยตัวร่วมแถลงข่าว




โดย พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายกฤษฎาให้การภาคเสธ และทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ4ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,กระทำการใดๆแก่ศพเพื่ออำพรางคดี,ซ่อนเร้นยักย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุของการตายและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธแต่ไม่เป็นอุปสรรคกับแนวทางการสอบสวนดำเนินคดีเนื่องมีทั้งพยานบุคคลและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัวแน่น เนื่องจากพบว่านายกฤษฎาอยู่กับผู้ตายขณะเกิดเหตุและขับรถเบนซ์ออกไป และหนึ่งในหลักฐานสำคัญของคดีนี้คือต่างหู แหวนเพชร และฟันปลอมของผู้ตายที่อยู่ในกองเถ้าถ่าน และจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดและจะคัดค้านการประกันตัวเพื่อไม่ให้ยุ่งเหยิงกับพยาน



ส่วนสาเหตุของการฆ่าเนื่องจากนายกฤษฎา ยังให้การปฏิเสธไม่ยอมให้การใด ๆ จึงไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ถึงวิธีการฆ่าและปมการสังหาร เพียงแต่คาดการณ์ไปตามผลการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุและหลักฐานที่พบว่าตายเพราะเสียเลือดมากและถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนแรงจูงใจของการฆ่าจะมาจากการทะเลาะวิวาทหรือมีเรื่องของการประสงค์ต่อทรัพย์หรือไม่นั้นพนักงานสอบสวนจะต้องสอบสวนกันต่อไป

พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า ในส่วนของทรัพย์สินต่างๆของผู้ตายทั้งรถเบนซ์รถยนต์กระบะอีก2 คันรวมถึงทรัพย์สินอื่นๆภายในบ้านว่าจะสูญหายเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตาม นอกจากนี้หากพบว่ามีญาติหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ต้องหาในระหว่างการหลบหนีก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย

สำหรับคดีนี้เริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ญาติได้เข้าแจ้งความที่สภ.เมืองสงขลา ว่า น.ส.ภิญญาดา ได้หายออกจากบ้านไปเมื่อคืนวันที่ 23 พ.ค. และมีการประกาศหาผ่านเฟซบุ๊ค กระทั่งมีพลเมืองดีพบร่องรอยของการถูกเผานั่งยางในพื้นที่ป่าพรุ บ้านท่านางหอม หมู่ 5 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ และผลตรวจที่เกิดเหตุพบหลักฐานที่ญาติระบุว่าเป็นศพของ น.ส.ภิญญาดา ทั้งต่างหู แหวน เพชร และฟันปลอม ตำรวจจึงสอบสวนและพบว่า นายกฤษฎา น่าจะเป็นคนฆ่ากระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับและมอบตัวในที่สุด