การตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐต่อเหล็กกล้า และอะลูมิเนียมจากอียู แคนาดาและเม็กซิโก มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ ขณะที่ประเทศที่ได้รับผลกระทบออกมาประกาศตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
การตั้งกำแพงภาษีครั้งใหญ่ของสหรัฐต่อสินค้านำเข้าประเภทเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม จากสหภาพยุโรป หรืออียู, แคนาดาและเม็กซิโก มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ ท่ามกลางเสียงประณามเซ็งแซ่ต่อการเคลื่อนไหวที่สร้างความตึงเครียดของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งแม่แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันในรัฐสภาสหรัฐ ก็ร่วมวิพากษ์วิจารณ์ด้วย ขณะที่ บรรดาผู้นำจากประเทศที่ได้รับผลกระทบ แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยความเกรี้ยวกราด ประกาศตอบโต้สหรัฐแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เกือบทุกประเภทสินค้า ไล่ไปตั้งแต่เหล็กกล้า ไปจนถึงถุงนอน และปากกาลูกลื่น
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้หารือทางโทรศัพท์กับทรัมป์ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และยุโรปจะตอบโต้ด้วยวิธีที่แข็งกร้าวและเหมาะสม
ทรัมป์ให้เหตุผลในการตั้งกำแพงภาษีว่า บรรดาผู้ผลิตเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของสหรัฐ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ และถูกคุกคามจากอุปทานทั่วโลกที่มากเกินไป ซึ่งเป็นหตุผลที่ถูกปฏิเสธจากชาติพันธมิตร โดยนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาระบุว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าว เป็นการดูถูก มันยากเกินกว่าจะเข้าใจได้ ว่าแคนาดาถูกพิจารณาว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ
ด้านเลียม ฟ็อกซ์ รัฐมนตรีการค้าระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การตั้งกำแพงภาษีเหล็กกล้าร้อยละ 25 อาจจะไร้สาระ ไม่มีเหตุผล พร้อมตราหน้าการเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลทรัมป์ว่า เป็นการกีดกันการค้า และกล่าวเพิ่มเติมว่า มันจะเป็นเรื่องที่น่าสมเพชมาก หากเราลงเอยด้วยการตอบโต้การค้าแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน กับพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา
ส่วนนายหลุยส์ วิเดกาเรย์ รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก กล่าวว่า ประเทศของเขาจะตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษีด้วย เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ
นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรัฐสภาสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าว โดยเขากล่าวว่า การดำเนินการต่อเป้าหมายพันธมิตรของสหรัฐในวันนี้ ทั้ง ๆ ที่ควรจะร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาการค้าที่ไม่ยุติธรรมกับหลายประเทศ เช่นจีน
และสมาชิกรัฐสภาสหรัฐบางคนกล่าวว่า การตั้งกำแพงภาษีเหล่านี้ เป็นการตอบโต้ผิดเป้าหมาย ยุโรป, เม็กซิโกและแคนาดา ไม่ได้เป็นปัญหา แต่เป็นจีนต่างหาก
ทั้งนี้ สหรัฐตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กกล้าร้อยละ 25 และอะลูมิเนียมร้อยละ 10 มีผลบังคับใช้วันนี้
