มาดื่มนมกันเถอะ?

2018-06-01 00:20:07

มาดื่มนมกันเถอะ?

Advertisement

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยสรรพคุณของน้ำนมตามตำราโบราณ ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย พร้อมแนะนำขนมจากสมุนไพร ทานคู่นมช่วยส่งเสริมสุขภาพ

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า วันที่ 1 มิ.ย. องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organization หรือ FAO ) กำหนดให้เป็นวันดื่มนมโลก (World Milk Day) นมและผลิตภัณฑ์จากนม มีความสำคัญต่อโภชนาการของคนตลอดทุกช่วงชีวิตโดยเฉพาะวัยเด็ก มีความสำคัญเป็นอย่างมากในกระบวนการเจริญเติบโต นมเป็นแหล่งอาหารที่มีแร่ธาตุแคลเซียมสูง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโปรตีน เกลือแร่ต่าง ๆ เช่น ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามิน ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมอง ใน 1 วัน เราควรดื่มนมอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว หรือประมาณ 400 มิลลิลิตร เพื่อการมีสุขภาพที่ดี และแข็งแรง


นมในตำราเภสัชกรรมไทย ระบุว่า น้ำนมแม่ มีรสหวานเย็น บำรุงกำลัง ช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการท้องผูก น้ำนมโค มีรสหวานมัน ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย น้ำนมแพะ รสหวานฝาด บำรุงร่างกาย  บรรเทาอาการท้องเสีย บรรเทาอาการไอ ดังนั้น นมถือเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์มาช้านาน



ในวันดื่มนมโลกปีนี้   กรมการแพทย์แผนไทยฯ ขอร่วมรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนในการเพิ่มแคลเซียมให้แก่ร่างกาย โดยดื่มนมคู่กับขนมจากสมุนไพร เช่น กล้วยหอมทองอบกรอบ งาดำแท่งธัญพืช ลูกเดือยอบกรอบ เม็ดบัวอบกรอบ  เค้กกล้วยหอม เพื่อช่วยเสริมแคลเซียมและความแข็งแรงของกระดูกได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากน้ำนมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกแล้ว ยังมีผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เป็นอีกตัวช่วยอย่างหนึ่งในการบำรุงกระดูก เช่น ยอดมะรุม ยอดสะเดา คะน้า ผักแพว กะเพรา ใบชะพลู   ใบเหลียง ฟักทอง ผักบุ้ง ซึ่งหากนำมาปรุงอาหาร ก็สามารถช่วยบำรุงกระดูก และเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงได้เช่นกัน ถือเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณเสริมฤทธิ์กลุ่มเดียวกัน จึงอยากแนะนำแม่บ้านที่ปรุงอาหารหากจะคิดเมนูสุขภาพ อย่าลืมประยุกต์ใช้พืชผักสมุนไพรและธัญพืชให้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ