ตำรวจกองปราบเร่งตามตัว “พระพรหมสิทธิ-พระพรหมเมธี” คาดยังกบดานในไทย พร้อมขยายผลโยงอดีตพระพรหมดิลก วิ่งเต้นเลื่อนสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้การปกครอง
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามตัวพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กับ พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ว่า ล่าสุด พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุมพระทั้ง 2 รูปให้ได้โดยเร็ว พร้อมเชื่อว่า พระพรหมสิทธิ ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ใน กทม. ส่วนทางด้าน พระพรหมเมธี คาดว่า หลบหนีด้วยการพรางตัวในชุดของฆราวาส
ผบก.ป. กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนขยายผลพระพรหมดิลก และพระพรหมสิทธิ กับพระพรหมเมธี นอกจากจะมีความผิดฐานฟอกเงินกรณีทุจริตเงินทอนวัดแล้ว ยังพบว่า พระผู้ใหญ่ทั้ง 3 รูป ยังมีส่วนพัวพันกับการวิ่งเต้นการเลื่อนตำแหน่ง หรือสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้การปกครองด้วยการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ โดยภายในกุฏิของพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร พบเอกสารการเลื่อนสมณศักดิ์ของพระสงฆ์หลายรูป บางรูปเกี่ยวพันกับการวิ่งเต้นเพื่อขอเลื่อนสมณศักดิ์ในแต่ละปีอีกด้วย
นอกจากนี้ พระพรหมดิลก ยังมีความสนิทสนมกับสีกาเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ทำให้เข้านอก-ออกในกุฏิมานานกว่า 10 ปี โดยสีกาคนดังกล่าว ส่งลูกเขยมาบวชที่วัดสามพระยา เพื่อปรนนิบัติดูแลพระพรหมดิลกโดยตรง นอกจากนี้ สีกาคนเดิมยังเดินทางไปต่างประเทศกับพระพรหมดิลก มากกว่า 10 ครั้ง ซึ่งตรงกับในบัญชีของสีกาที่มีการโยกย้ายถ่ายเงินจากวัดสามพระยา และวัดอื่นๆ ภายใต้การปกครองของพระพรหมดิลก ด้วย
ข้อมูลของตำรวจยังพบว่า มีวัดอย่างน้อย 10 แห่งในเขต กทม. ที่สั่งซื้อเครื่องสังฆภัณฑ์จากร้านของสีกาคนนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งใช้เงินของวัดที่ได้รับจากการบริจาค และเงินที่ได้รับอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ.) ส่วนใหญ่เจ้าอาวาสผู้ปกครองวัด มักจะมีความสนิทสนมกับพระพรหมดิลก และพระอรรถกิจโสภณ อีกทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า พระสงฆ์ที่สั่งซื้อสินค้าจากร้านสังฆภัณฑ์แห่งนี้ ส่วนใหญ่มักจะได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ ตั้งแต่ระดับเจ้าคุณชั้นสามัญขึ้นไป