หนุน “บิ๊กโจ๊ก” ขยายผลจับไกด์โหด

2018-05-20 17:30:19

หนุน “บิ๊กโจ๊ก” ขยายผลจับไกด์โหด

Advertisement

จากกรณีไกด์จีนระเบิดอารมณ์นักท่องเที่ยวชาวจีน ไล่ให้ลงจากรถเหตุไม่พอใจลูกทัวร์ซื้อสินค้าหมอนยางพาราน้อยไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้กับร้านค้า ปรากฏเป็นข่าวดังกระหึ่ม ทั้งทางโซเชียลและสื่อมวลชนที่ประเทศจีน โดยเฉพาะที่เผยแพร่ทาง “เพจอ้ายจง”เว็บเพจชื่อดังมีคนเข้าไปดูำนวนมาก จุดกระแสชาวจีนผิดหวังเสียความรู้สึกต่อการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นวงกว้าง

แม้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รอง.ผบช.ทท ได้นำตัวนายลี่ ไห่ (LI HAI) หรือฉายา “ผีอาไห่” อายุ 21 ปี มาแถลงข่าว โดยระบุว่า นายลี่ไห่เป็นไกด์เถื่อนสัญชาติจีน เป็นไกด์พากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 10 คน เดินทางมาเที่ยวไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. โดยมีบริษัทเอเย่นทัวร์ในไทยเป็นผู้จัดโปรแกรมทัวร์ดังกล่าวให้ และมีนาย ลี่ไห่ เป็นไกด์นำเที่ยว กทม.ระยอง พัทยา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ขณะนักท่องเที่ยวกลับขึ้นรถหลังจากพาไปซื้อสินค้าหมอนยางพาราในเมืองพัทยา จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นาย ลี่ ไห่ เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน พร้อมจะขอศาลออกหมายจับกรรมการบริษัทเอเย่นทัวร์ในไทยในข้อกล่าวหาก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ทั้งนี้กระแสไกด์โหดดังกล่าวยังคงร้อนแรงสื่อมวลชนที่ประเทศจีนยังคงติดตามเจาะลึกขุดคุ้ยที่มาที่ไป โดยเฉพาะตามเพจท่องเที่ยวและเพจของกลุ่มมัคคุเทศก์ทั้งไทยและจีน ต่างกล่าวไปทำนองเดียวกันว่า นายลี่ไห่ ไม่เกรงกลัวตำรวจโดยเฉพาะในวันแถลงข่าวปรากฏภายนายลี่ไห่ ยืนประจันหน้าจ้องตา “บิ๊กโจ๊ก”อย่างไม่เกรงกลัวหรือสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพราะนายลี่ไห ถือดีว่ามีลูกพี่เป็นมาเฟียจีนมีอิทธิพลสูง




สำหรับการบังคับลูกทัวร์ซื้อสินค้าราคาสูงซึ่งไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เกิดขึ้นเป็นประจำจนเป็นที่เอื้อมระอาแก่สมาคมมัคคุเทศก์เป็นอย่างมาก พากันเรียกร้องให้ “บิ๊กโจ๊ก” ขยายผลหรือนำกำลังเข้าตรวจสอบจะพบว่าหมอนยางพารารวมทั้งสินค้าประเภทอื่นๆที่ซื้อจากร้านค้ากลุ่มนี้เป็นของปลอมของที่ไม่มีคุณภาพและถ้า “บิ๊กโจ๊ก”ติดตามขยายผลจะพบว่า กลุ่มร้านค้าที่ว่านี้เป็นของชาวจีน 100 เปอร์เซนต์เจ้าของคือ “ตู้ห่าว”เปลี่ยนสัญชาติเป็นไทยเพราะแต่งงานกับนายตำรวจหญิง มีการกู้ยืมเงิน 1,000 ล้านหยวนหรือ 5,000ล้านบาท จากนายทุนน้ำมันเถื่อนที่เมืองฝูเจิ้ง มณฑลแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นอดีตลูกพี่ของ “ตู้ห่าว”มาลงทุนสร้างร้านค้าหรูหราใหญ่โต

กลุ่มไกด์จีนได้รวมตัวกันเปิดร้านค้าเองที่กำลังโด่งดังที่จ.ภูเก็ต นอกจากนี้นาย “ตู้ห่าว”หลบหนีหมายจับจากแต้จิ๋วจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบ้านลูกหนี้น้ำมันเถื่อนที่เฝืองฝูเจี้ยน แฝงเป็นไกด์เถื่อนในประเทศไทยไทยร่วม 10 ปีจนเห็นช่องทางที่จะทำเงินมหาศาลได้ จึงติดต่อลูกพี่เก่าขอยืมเงินมาลงทุนดังกล่าว



ที่น่าสนใจในเพจของกลุ่มมัคคุเทศก์พากันวิจารณ์ทำนองว่า “ลี่ ไห่” คนนี้ไม่ธรรมดา วงการไกด์เรียกว่า “ผีอาไห่” ไม่มีใครอยากมายุ่งเกี่ยวด้วย ชอบคุยโวโอ้อวดว่าไม่กลัวตำรวจ ทั้งนี้บรรดามัคคุเทศก์เชื่อว่าร้านค้ากลุ่มของมาเฟีย “ตู้ห่าว” อาจจะเข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจร เพราะมีการออกเป็นเอกสารเป็นคำสั่งมีลายเซ็นตู้ห่าว วางเป็นกฏข้อบังคับไกด์ทุกคนในสังกัดให้บังคับซื้อสินค้า ถ้าทำเป้าได้จะมีค่าตอบแทนที่สูงกว่ากลุ่มอื่น แต่หากไกด์คนใดกระด้างกระเดื่องพานักท่องเที่ยวไปจับจ่ายใช้สอยกับร้านค้านอกสังกัด จะกลั่นแกล้งให้ตำรวจจับ เพราะไกด์ในสังกัด “ตู้ห่าว” เกือบทั้งหมดเป็นไกด์เถื่อนชาวจีนไม่มีใบอนุญาต

นอกจากนี้ในเพจยังมีการลงรูปบัตรสีเหลืองที่ระบุว่าเป็นบัตรเมมเบอร์ประจำตัวไกด์ที่ออกให้โดยร้านค้าที่สังกัดอยู่ เพื่อแสดงถึงการนำลูกทัวร์เข้ามาซื้อสินค้าในกลุ่มบริษัทนั้นๆ จึงไม่น่ายากที่ “บิ๊กโจ๊ก” จะขยายผลไปให้ถึงกลุ่มร้านค้าต้นเหตุ

ด้านนายสุวิทย์ บุตรพริ้ง ได้เปิดประเด็นร้อนดังกล่าวในเพจดัง “สืบจากข่าว”ว่า จริงๆแล้วเรื่องนี้ต้องปรบมือให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก”ของเรา เพราะสามารถติดตามจับกุมนายลี่ไห่ หรือ “ผีอาไห่” ไกด์เถื่อนรายนี้ได้อย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของ “ผีอาไห่”ชัดเจนมากว่ามีการทำกันเป็นขบวนการเหมือนมาเฟีย มีการออกเอกสารเป็นคำสั่งมีลายเซนหัวหน้าแก๊งบีบบังคับนักท่องเที่ยวให้ซื้อสินค้า มีการข่มขู่ คุกคาม แก๊งนี้ปล่อยไว้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด