3 พี่น้องตกตึกอาการยังวิกฤต

2018-05-03 21:25:34

3 พี่น้องตกตึกอาการยังวิกฤต

Advertisement

ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. รุดเยี่ยม 3 พี่น้องลูกครึ่งสวิตเซอร์แลนด์ หลังรอดชีวิตเหตุผลัดตกตึก เผยเด็ก 2 คน รักษาตัวที่ ICU รพ.รามคำแหง อาการยังวิกฤต ทีมแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่เด็กอีก 1 คน รักษาตัวที่ รพ.แพทย์ปัญญาอาการดีขึ้น พร้อมระบุรัฐบาลให้การคุ้มครองตามสิทธิ UCEP หลังพ้น 72 ชั่วโมง สิทธิบัตรทองดูแลต่อเนื่อง


เมื่อเวลา 13:00 น. วันที่ 3 พ.ค. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เข้าเยี่ยมอาการพี่น้องลูกครึ่งสวิตเซอร์แลนด์ที่รอดชีวิต 3 ราย จากการผลัดตกตึกจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ รพ.รามคำแหง และ รพ.แพทย์ปัญญา

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า จากการเข้าเยี่ยมอาการพบว่าเด็กยังอยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง โดย ด.ช.ลูก้า ฟรองซัว อายุ 11 ปี และ ด.ญ.ชนิดา นิรันดร์ โบเรล อายุ 7 ปี ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.รามคำแหง มีทีมแพทย์และพยาบาลเฝ้าดูอาการต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกระทบที่สมอง ส่วน ด.ญ.พาเมลา นิรันดร์ โบเรล อายุ 10 ปี ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ รพ.แพทย์ปัญญา จากการพูดคุยกับ พล.อ.นพ.บุญลือ วงษ์ท้าว รองผอ.รพ.แพทย์ปัญญาและ นพ.อธิคม วงศ์ศรีสันต์ แพทย์ศัลยกรรมกระดูก แพทย์ผู้ให้การรักษา พบว่ามีอาการดีขึ้นต่อเนื่อง ตาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นจากเดิมที่อยู่ในภาวะพร่ามัว ส่วนขาขวาที่หักนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกจะให้การรักษาต่อไป






ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่าในส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลนั้น ด้วยเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่ก่อให้เกิดภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลช่วง 72 ชั่วโมงแรก เป็นการใช้สิทธิตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP) ซึ่ง ศ.นพ.ปิยะสกล สัตยาทร รมว.ธารณสุข ได้ผลักดันจนสำเร็จ เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ โดยได้รับการช่วยชีวิตได้อย่างทันท่วงที และเมื่อพ้น 72 ชั่วโมงแล้ว เนื่องจากเด็กทั้ง 3 คนถือสิทธิบัตรทอง โดยในกรณีของ ด.ช.ลูก้า และ ด.ญ.ชนิดา หากอาการดีขึ้นจนสามารถเคลื่อนย้ายได้จะส่งตัวกลับรักษาต่อยังหน่วยบริการตามสิทธิบัตรทอง คือ รพ.แพทย์ปัญญาต่อไป ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดเบิกจ่ายจากระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ





“ในการรักษาพยาบาลกรณีนี้ ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ได้ครอบคลุมการดูแลในช่วงวิกฤติ 72 ชั่วโมงแรก ซึ่ง รพ.รามคำแหง และ รพ.แพทย์ปัญญา ได้ให้การดูแลผู้ป่วยอย่างดีเยี่ยม เมื่อพ้น 72 ชั่วโมงจะต้องย้ายผู้ป่วยกลับไปยัง รพ.ต้นสังกัด กรณีน้องทั้ง 2 คนที่ขณะนี้ยังไม่พ้นช่วงวิกฤติ เมื่อครบ 72 ชั่วโมงจะมีการประเมินอีกครั้ง โดยทาง รพ.ได้ให้ความมั่นใจกับครอบครัวว่า จะดูอาการคนไข้เป็นสำคัญ หากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ก็จะดูแลจนกว่าจะเคลื่อนย้ายกลับหน่วยบริการตามสิทธิได้ ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามความคุ้มครองตามนโยบายรัฐบาล” ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช.กล่าว



ทพ.อรรถพร กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้ง สปสช.รู้สึกเสียใจและขอแสดงความเสียใจกับคุณแม่และครอบครัว ซึ่งต้องขอขอบคุณ รพ.รามคำแหง และ รพ.แพทย์ปัญญา ที่ได้ให้ความร่วมมือในการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติอย่างเต็มที่ ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตฯ และยังได้เฝ้าติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด