ผ่าซากช้างป่ากุยบุรีหาสาเหตุการตาย คาดรู้ผลใน 15 วัน ด้านผู้ใหญ่บ้านระบุ น่าจะถูกช้างป่าด้วยกันทำร้ายและถูกขับออกจากโขลง
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายอำเภอสามร้อยยอด ผกก.สภ.สามร้อยยอด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบซากช้างป่าเพศผู้อายุ 7 -10 ปี มีงายาว 30 เซนติเมตร(ซม.) สภาพเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วันภายในไร่สับปะรดร้างของนายบุญเลิศ งามดี อายุ 46 ปี ใกล้จุดตรวจหุบมะซางห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรีด้านทิศตะวันออกประมาณ 2 กิโลเมตร หมู่ที่ 7 บ้านวังไทร ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด ตรวจดูเบื้องต้นที่บริเวณสะโพกด้านซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์กว้าง 2 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว มีเลือดออกจากปาก ก่อนให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ใช้เครื่องสแกนหาเศษวัตถุโลหะที่ตัวช้างและพื้นที่โดยรอบแต่ไม่พบเศษโลหะหรือหัวกระสุนปืนแต่อย่างไร
ขณะที่ทีมสัตวแพทย์ สำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชได้ผ่าซากช้างเพื่อนำชิ้นเนื้อและเศษอาหารในกระเพาะไปตรวจพิสูจน์หาการปนเปื้อนของสารพิษหรืออาการเจ็บป่วยภายในห้องปฏิบัติการอีกครั้งคาดว่าจะทราบผลภายใน 15 วัน ก่อนนิมนต์พระสงฆ์มาสวดบังสุกุลและให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานใช้เครื่องจักรกลหนักขุดหลุมขนาดใหญ่เพื่อฝังกลบซากช้าง
นายสิน ไม้เทศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านวังไทร กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวมีช้างป่าออกหากินหลายตัวเป็นประจำที่ผ่านมาไม่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่ากับชาวบ้านที่มีอาชีพเกษตรกรทั้งไร่สับปะรด สวนยางพาราและสวนขนุน ก่อนหน้านั้นมีชาวบ้านพบเห็นช้างตัวดังกล่าวเดินแยกจากโขลงหากินเพียงลำพัง ส่วนสาเหตุการตายน่าจะมาจากอาการบาดเจ็บและแผลอักเสบติดเชื้อหลังจากถูกช้างป่าด้วยกันทำร้ายและถูกขับออกจากโขลง
