"จุ๋ย-พุฒ" ได้วันแต่งแล้ว ขอมีลูกเลย

2018-05-01 12:35:53

"จุ๋ย-พุฒ" ได้วันแต่งแล้ว ขอมีลูกเลย

Advertisement

และแล้วก็ถึงวันนี้ซะที วันที่ทั้งคู่ออกมาประกาศข่าวดีให้แฟนๆ ได้ชื่นใจ สำหรับ ดีเจพุฒ พุฒิชัย และ จุ๋ย วรัทยา ที่ล่าสุดเจอทั้งคู่ในงาน Supersports New Concept Store in Central World  ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อแบบยิ้มกรุ้มกริ่มพริมใจว่า...




พุฒ : ตามที่สัญญาไว้ครับว่าวันนี้จะมาบอกว่าฤกษ์แต่งงานของเราคือเมื่อไหร่ ซึ่งก็คือวันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นช่วงปลายปีนี้ครับ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เป็นงานพิธีทั้งหมั้นและแต่งในวันเดียวกันเลย




ได้ฤกษ์แต่งงานจากไหน?
จุ๋ย :
ได้มาจากพระผู้ใหญ่ที่เราสองคนนับถือท่านช่วยดูให้ค่ะ เป็นฤกษ์เดียวที่ได้มาเลย ซึ่งเอาจริงๆ เราได้ฤกษ์มานานแล้วนะคะ แต่ที่ก่อนหน้านี้ยังบอกกับพี่ๆ นักข่าวไม่ได้ก็เพราะ เขาจะต้องมีฤกษ์บอกด้วยอีกทีหนึ่ง (หัวเราะ)






พุฒ : หลายคนอาจสงสัยก่อนหน้านี้ว่าทำไมเรายังไม่บอกสักที จริงๆ เราก็อยากจะบอกนะครับ แค่เราอาจจะต้องถือเคล็ดสักนิดหนึ่ง
จุ๋ย : ถ้าฤกษ์แถลงคงไม่ต้องมีแล้วค่ะ แต่อาจจะเป็นหลังพิธีเสร็จแล้วชวนพี่ๆ นักข่าวมาร่วมงานอีกรอบหนึ่งมากกว่า

เตรียมงานกันไปถึงไหนแล้ว ?
พุฒ :
“เอาจริงๆ เราก็ยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเยอะขนาดนั้นนะครับ จะมีก็แค่การคุยกันเรื่อยๆ เตรียมงานคร่าวๆ มากกว่า”



จุ๋ย : “ ถ้าถามว่าคืบหน้ากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว เอ่อ…ต้องบอกก่อนว่างานของเราคืองานเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวา ดังนั้นเราเลยเตรียมงานกันเรื่อยๆ และก็คิดว่าน่าจะทันนะคะ เพราะเรื่องชุดต่างๆ เราก็ได้คุยกับพี่ที่เรารักและเคารพให้ช่วยจัดการแล้ว วัดตัวเรียบร้อยแล้ว ชุดก็เมดอินไทยแลนด์เลยค่ะ แค่พิธีไทยกับพิธีธรรมดาเฉยๆ เพราะงานมีแค่เช้าเที่ยงก็จบเลย (ยิ้ม)”




แสดงว่าไม่มีงานเลี้ยงฉลองช่วงเย็น ?
พุฒ : “ไม่มีปาร์ตี้กลางคืนครับ ก็อย่างที่แจ้งไปว่าเราอยากให้งานออกมาง่ายๆ สบายๆ มากกว่า อย่างพิธีเช้าก็มีแขกเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ ส่วนช่วงเที่ยงก็จะเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ รวมถึงสื่อมวลชนที่เราจะเชิญมาร่วมงานครับ”



ทำไมเราถึงเลือกจัดงานแบบไม่มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ?
จุ๋ย : “เราสองคนไม่ใช่สายปาร์ตี้ก็เลยไม่ถนัดกับตรงนี้มากกว่า อีกอย่างเราอยากให้งานเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามประเพณีไทยด้วยค่ะ”

ได้มีการสู่ขอกันอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง ?
พุฒ : “คุณพ่อคุณแม่ผม ได้เข้าไปเจอกับคุณพ่อคุณแม่จุ๋ยแล้วครับ พวกท่านก็ได้คุยกันบ้างแล้ว แต่ว่าเร็วๆ นี้อาจจะมีคุยกันอย่างเป็นทางการแน่นอน เพราะทุกอย่างก็มีพิธีการมีขั้นตอนของแต่ละพิธีเหมือนกันหมด”






แล้วแบบนี้วันที่เราจะคุกเข่าขอจุ๋ยแต่งงานจะต้องมีฤกษ์ด้วยไหม ?
พุฒ :
“อันนั้นไม่ต้องมีฤกษ์ครับ ดูตามฟีล ดูตามความรู้สึก และสถานการณ์ครับผม”

ก็ต้องรอดูเซอร์ไพรส์ที่จะตามมาสำหรับการขอแต่งงาน ?
จุ๋ย :
“มันจะไม่เซอร์ไพรส์ก็ที่ถามนี่แหละ (หัวเราะ)”
พุฒ : “ถ้ามีเดี๋ยวพี่ๆ ก็คงเห็นเองนะครับ (หัวเราะ)”

เราคาดหวังไหมกับการคุกเข่าขอแต่งงานของพุฒ ?
จุ๋ย :
“ไม่หวังเลย เพราะเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเราทั้งคู่เป็นอะไรที่เรียบง่าย และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือให้ผู้ใหญ่รับทราบแค่นั้นเราก็พอใจที่สุดแล้ว”




กำหนดธีมงานไว้เรียบร้อยแล้วหรือยัง ?
จุ๋ย :
“จะเป็นการกำหนดสีมากกว่าค่ะ คือมีสีขาว เทา น้ำเงิน”

ส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจแต่งงานปีนี้เพราะอยากจะมีน้องด้วยไหม ?
พุฒ :
“ถ้าเอาตรงๆ ผมเองก็เป็นคนชอบเด็ก และจุ๋ยก็ชอบเด็กเหมือนกัน ถ้าหากวันหนึ่งเราได้แต่งงานกันแล้ว เราก็อยากจะมีลูกเลยถ้าหากเป็นไปได้”

แสดงว่าถ้าแต่งงานปุ๊ปก็เปิดอู่ทันที ?
พุฒ :
“อย่างที่บอกบางคนอยากมีมาก แต่พอถึงเวลาจริงๆ น้องก็ไม่มา ผิดกับบางคนที่อาจจะยังไม่ถึงเวลาแต่น้องก็มาแล้ว เราก็เลยไม่รู้ว่าเราจะอยู่ในโหมดไหน”




ตอนนี้เราอยากให้เขามาไหม ?
พุฒ :
“ตอนนี้อย่าเพิ่งสิครับ (หัวเราะ) เอาไว้เป็นไปตามจังหวะดีกว่า”

เราวางแผนครอบครัวไปพร้อมกับงานแต่งเลยไหม หรือว่าให้ผ่านงานแต่งไปก่อน ?
จุ๋ย :
“จริงๆ เราก็คุยกันนะคะว่าจะเป็นยังไง แต่ก็อย่างที่พุฒบอกเรื่องร่างกายเราไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะโอเคหรือเปล่า ถ้าหากเปิดปุ๊ปเขามาปั๊ปก็ถือว่าโชคดีมากๆ”

หลังจากนี้จุ๋ยจะต้องเคลียร์งานรอเลยไหม ?
จุ๋ย :
“ตอนแรกจุ๋ยก็ตั้งใจจะเคลียร์งานให้ละครจบภายในต้นปีนี้ แต่ว่าละครดันเลยเถิดไป หนูก็เลยไว้ผมยาวไม่ได้สักที ต้องเป็นผมทรงนี้แน่ๆ เลย”




ตื่นเต้นไหมใกล้จะถึงวันแต่งงานแล้ว ?
พุฒ :
“ตื่นเต้นนะครับ เพราะมันคือครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต และเราก็จะได้ประกาศว่าเรามีชีวิตคู่ เราได้ใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิต แน่นอนครับยังไงเราก็ต้องมีความตื่นเต้น แม้อาจจะยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าใกล้ๆ ถึงวันต้องตื่นเต้นกว่านี้แน่นอน”
จุ๋ย : “จุ๋ยตื่นเต้นวันนี้เลยค่ะ วันที่จะต้องบอกฤกษ์แต่งงาน เพราะมันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ทุกคนจะได้รู้แล้วว่าวันที่เราแต่งงานคือวันไหน และหลังจากนี้เราก็จะได้เตรียมพร้อมต่อไปตามประเพณี”

ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแล้วหรือยัง ?
จุ๋ย :
“เราเป็นคู่ที่ไม่มีพรีเวดดิ้งค่ะ ทุกๆ ที่คือพรีเวดดิ้ง เพราะงานพวกเราเรียบง่ายมาก อาจจะเรียบง่ายจนพี่ๆ ตกใจ”

สินสอดล่ะ ?
พุฒ :
“ก็ตามฤกษ์และตามความเหมาะสมครับ (ยิ้ม)”




เตรียมเรือนหอแล้วหรือยัง ?
พุฒ :
“ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการออกแบบครับ เป็นเรือนหอย่านวัชรพล แต่ไม่น่าจะเสร็จทันหลังแต่งงาน เพราะการสร้างบ้านรายละเอียดค่อนข้างเยอะ”

คู่เราฝ่าฝันมรสุมกันมานาน   ?
จุ๋ย :
“มันเป็นความรักจริงๆ ที่เราพร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข เวลามีปัญหาอะไรเราก็พร้อมที่จะฝ่าฝันมันให้ได้ ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา เราไม่ได้มีแต่ความสุขอย่างเดียว เราต้องมีความทุกข์บ้างให้มันสมดุล ซึ่งความทุกข์นั่นแหละค่ะที่ทำให้เราได้เห็นกันมากขึ้น”

รู้สึกยังไงบ้างที่ต้องเปลี่ยนจากคำว่าแฟนกลายเป็นคำว่าคู่ชีวิต ?
พุฒ :
“ก็คงไม่แตกต่างไปจากเดิม เพราะทุกวันนี้เขาก็คือคู่ชีวิตของเราอยู่แล้ว เวลามีปัญหาก็คุยกัน เวลาต้องการกำลังใจก็สลับกันให้กำลังใจ”
จุ๋ย : จุ๋ยคิดมาตลอด และก็หวังว่าพุฒจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเราตั้งแต่แรก เวลาที่เราได้ใช้ชีวิตด้วยกันทุกวันมันก็เติมเต็มคำว่าใช่ขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะเขาจะมีนิสัยความน่ารักที่เราและคนรอบข้างทุกคนต่างก็รักเขา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ทำให้เราสบายใจ และรู้สึกได้ว่าเขาน่าจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีในอนาคตสำหรับเรา”