Thailand Web Stat

กัดเล็บตัวเอง

7 เดือนที่แล้ว

กัดเล็บตัวเอง

Advertisement

กัดเล็บตัวเอง 

นิสัยที่ชอบ กัดเล็บตัวเอง เวลาว่าง เหม่อ หรือตอนที่ต้องการใช้สมาธิจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พฤติกรรมแบบนี้อาจส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพ ซึ่งหากมีพฤติกรรมการกัดเล็บบ่อย ๆ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคทางจิตเวชได้อีกด้วย

นิสัยกัดเล็บเกิดจากอะไร

ในปัจจุบันยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด รู้สึกเบื่อ วิตกกังวล หรืออุปนิสัยส่วนตัวที่ชอบกัดเล็บนอกจากนี้พันธุกรรมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการกัดเล็บได้

ชอบกัดเล็บเกิดกับใครได้บ้าง ?

พฤติกรรมชอบกัดเล็บที่พบเห็นบ่อยจะเป็นช่วงวัยเด็ก แต่ในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ก็พบได้บ่อยเช่นกัน โดยนิสัยชอบกัดเล็บจะเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพฤติกรรมชอบกัดเล็บอาจเกิดขึ้นจากนิสัยของคนที่เสพติดความสมบูรณ์แบบ มีความกดดันในตัวเองสูง จึงทำให้แสดงความเครียดออกมาทางพฤติกรรม เช่น กัดเล็บ ดึงผม การดึงหรือถูผิวหนังที่บริเวณต่าง ๆ เช่น จมูกเล็บ ริมฝีปาก

กัดเล็บบ่อย ๆ เสี่ยงติดเชื้อโรค

การกัดเล็บนอกจากจะทำให้เล็บไม่สวย ยังมีความเสี่ยงทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียที่มาจากช่องปากรวมไปถึงเชื้อโรคที่ติดอยู่รอบ ๆ เล็บจากการสัมผัสสิ่งของในชีวิตประจำวันแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น เชื้อราที่เล็บ ปัญหาช่องปากและลำคออักเสบจากการติดเชื้อ และเนื้อบริเวณนิ้วอักเสบติดเชื้อได้ 

ความรู้สึกของคนชอบกัดเล็บตัวเอง

-ไม่สบายใจหรือวิตกกังวล

-เครียดจากปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว การเรียนและการทำงานรู้สึกโล่งใจ มีความสุขหลังจากได้กัดเล็บ

-ละอายใจ รู้สึกผิดเมื่อมองเห็นสภาพผิวหนังและเล็บของตัวเอง

-กลัวคนอื่นเห็นเล็บ

ความเสี่ยงของการกัดเล็บ

-เล็บผิดรูปร่าง การกัดเล็บทำให้เนื้อเยื่อของเล็บเสียหาย ส่งผลให้เนื้อเยื่อที่สร้างมาใหม่มีรูปแบบผิดปกติ ผิดรูปไปจากเดิม

-ติดเชื้อ การกัดเล็บอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค เพราะเล็บเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เกิดจากการใช้มือหยิบจับสิ่งของในชีวิตประจำวัน การกัดเล็บจึงเสี่ยงที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้การกัดเล็บอาจทำให้ผิวหนังบริเวณเล็บหลุดหรือเกิดแผลทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้เช่นเดียวกัน

-ฟันเสียหาย การกัดเล็บอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพฟัน เช่น ฟันร้าว ฟันบิ่น หรือแตกหัก นอกจากนี้อาจส่งผลให้กรามหรือกระดูกขากรรไกรเกิดความผิดปกติได้

-บุคลิกภาพต่อบุคคลรอบข้าง ทำให้สูญเสียความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีต่อบุคคลรอบข้าง ติดนิสัย

การกัดเล็บตัวเองหากไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยหรือทำเป็นประจำ จนทำให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น ติดเชื้อ มีการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัวหรือคนรอบข้างก็ไม่มีอันตรายอะไรเพียงแค่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่หากเกิดการกัดเล็บตัวเองจริงจังเกินไป ห้ามตัวเองไม่ได้ และกัดเล็บจนก่อให้เกิดผลเสียตามมา อาการแบบนี้อาจเข้าข่ายภาวะของโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคสมาธิสั้นได้ หรือโรคกัดเล็บ (onychophagia) เป็นคำใช้เรียกคนที่มีพฤติกรรมชอบกัดเล็บเป็นประจำหรือเรื้อรัง

กัดเล็บตัวเองแบบไหนเข้าข่ายโรคจิตเวช

-กัดเล็บขณะเหม่อลอย

-ไม่รู้ตัวว่ากำลังกัดเล็บตัวเองอยู่

-กัดเล็บจนเล็บผิดรูปหรือเป็นแผล

-รู้สึกอายเล็บตัวเอง พยายามไม่ให้ใครเห็นเล็บมือ

-มีอาการอื่นแสดงร่วมกับการกัดเล็บ เช่น ดึงผม แกะเกาผิวหนัง กัดริมฝีปาก หรือเขย่าขา

-ต้องทะเลาะกับผู้อื่นบ่อย ๆ เนื่องมาจากพฤติกรรมกัดเล็บของตัวเอง

วิธีป้องกันการ กัดเล็บตัวเอง

-ตัดเล็บให้สั้น

-ทาครีมหรือเจลเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือ

-ทาบอระเพ็ดหรือวัตถุดิบที่มีรสขมบริเวณนิ้ว

-ทาเล็บ แต่งตกเล็บ

-ติดพลาสเตอร์แปะแผล

-สวมถุงมือ

-เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อช่วยให้ปากไม่ว่าง

-รับมือกับภาวะอารมณ์ต่าง ๆ อย่างถูกต้อง

-ผ่อนคลายสมองและอารมณ์ เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และทำสมาธิ

-หากมีปัญหาด้านอารมณ์อย่างรุนแรงควรปรึกษาแพทย์

-ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละน้อย

พฤติกรรมการกัดเล็บตัวเองจนส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ ควรสังเกตพฤติกรรม อารมณ์ ความรู้สึกของตัวเองให้ดี หากไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย ประเมินอาการ และรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

ผศ.นพ.คมสันต์ เกียรติรุ่งฤทธิ์

ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ 

คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล