สบส.ไม่อยู่เฉย เตรียมตรวจสอบร้านนวดย่านสุขุมวิท หลังนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันถูกทำอนาจาร ด้านตำรวจรวบหนุ่มนวดสยิวแล้ว ผู้ต้องหาอ้างฝ่ายหญิงสมยอม แถมทิปอีก 100 บาท
จากกรณีสื่อไต้หวันมีการนำเสนอข่าวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่าถูกชายซึ่งเป็นพนักงานร้านนวดแห่งหนึ่งกระทำอนาจาร เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2561 ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกกรม สบส. ได้มอบหมายให้นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผอ.กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดย นพ.ภัทรพล กล่าวว่าทางกองสถานประกอบการฯ ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบว่าร้านนวด ดังกล่าวมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพหรือไม่ รวมทั้งผู้ให้บริการ มีการขึ้นทะเบียนกับกรม สบส.หรือไม่ โดยหากตรวจสอบพบว่าผู้ให้บริการมีการกระทำผิดจริง ผู้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการหรือเจ้าของร้านจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานประกอบเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ฐานปล่อยให้มีการกระทำหรือบริการที่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีในสถานประกอบการฯ มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และอาจได้รับโทษสูงสุดคือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนผู้ให้บริการที่กระทำผิด จะต้องถูกลบชื่อ ออกจากทะเบียนหมดสิทธิ์ประกอบอาชีพนวดอีกต่อไป และต้องรับโทษตามกฎหมายอาญา
นพ.ภัทรพล กล่าวต่อว่า ผู้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั้งสปา นวดเพื่อสุขภาพ หรือเพื่อเสริมความงามทุกแห่ง มีหน้าที่ต้องรักษามาตรฐานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต และต้องควบคุมดูแลมิให้มีการลักลอบค้าประเวณี รวมไปถึงไม่ให้มีการกระทำหรือบริการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้รับบริการทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมทั้ง เป็นการรักษาชื่อเสียงของประเทศชาติอีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าคดีล่าสุดมีรายงานว่า สน.ทองหล่อ ได้จับกุมผู้ต้องหาชายวัย 27 ปี โดยผู้เสียหายกับเพื่อนสาวชาวไต้หวันได้ไปใช้บริการนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ซึ่งได้นวดฝ่าเท้าที่บริเวณชั้น 1 ของร้านเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยผูต้องหาเป็นผู้นวดให้ผู้เสียหาย จากนั้นได้ขึ้นนวดแผนไทยต่อที่ชั้น 2 ของทางร้าน ส่วนเพื่อนสาวได้แยกไปนวดแผนไทยที่ชั้น 3 ขณะที่นวดนั้น ู้ต้องหาได้กระทำอนาจารและข่มขืนผู้เสียหาย แล้วเดินกลับไปบริเวณชั้นล่างของทางร้านและกลับไปทำงานตามปกติ ส่วนตัวผู้เสียหาได้ลงมาชำระเงินค่านวด และเดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม จากนั้นจึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนตำรวจ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเชิญตัวมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ระบุว่า มีเพศสัมพันธ์จริง แต่ผู้เสียหายยินยอม ไม่ขัดขืน ะเมื่อนวดเสร็จ ผู้ต้องหาได้ลงมาชั้นล่างทำงานตามปกติ ส่วนผู้เสียหายได้เดินตามลงมา และได้นั่งรอเพื่อนสาวอีกรายโดยจ่ายเงินค่านวด 200 บาท และให้ทิปแก่ผู้ต้องหาอีก 100 บาท
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีและข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาไว้ แล้วให้เดินทางกลับไปโดยไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด โดยได้นัดให้ผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 21 เม.ย.นี้