กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุ่มตรวจโรตีสายไหมเพื่อตรวจวิเคราะห์วัตถุกันเสีย พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐาน ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถซื้อรับประทานและเป็นของฝากได้อย่างมั่นใจ
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรตีสายไหมเป็นขนมประจำ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาไหว้พระและซื้อโรตีสายไหมเพื่อเป็นของฝาก อีกทั้งปัจจุบันจากกระแสละครบุพเพสันนิวาสทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้โรตีสายไหมขายดี ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในการบริโภคโรตีสายไหม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหารจึงได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุ่มเก็บตัวอย่างเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2561 แบ่งเป็นแผ่นแป้งโรตี และผงแป้งอเนกประสงค์ เพื่อตรวจวิเคราะห์วัตถุกันเสีย ได้แก่ กรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก ผลการตรวจวิเคราะห์ไม่พบกรดซอร์บิกทุกตัวอย่าง แต่พบวัตถุกันเสียชนิดกรดเบนโซอิกแต่ไม่เกินมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถซื้อโรตีสายไหมไปรับประทานและเป็นของฝากได้อย่างมั่นใจ
นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ปริมาณกรดเบนโซอิกในแป้งอเนกประสงค์ซึ่งจัดเป็นส่วนผสมสำเร็จรูปสำหรับผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม และไม่อนุญาตให้ใช้กรดซอร์บิก ส่วนแผ่นแป้งโรตีกำหนดปริมาณกรดเบนโซอิก สำหรับอาหารประเภทธัญชาติและผลิตภัณฑ์ธัญชาติ ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม และปริมาณกรดซอร์บิกไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม
"กรดเบนโซอิกเป็นวัตถุกันเสียที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายชนิด รวมถึงใช้สำหรับรักษาคุณภาพของเครื่องสำอางและยาสีฟัน โดยกรดเบนโซอิกสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ สำหรับความเป็นพิษของกรดเบนโซอิกหากได้รับปริมาณที่สูงอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียได้ หากได้รับปริมาณน้อยร่างกายจะสามารถขับออกให้หมดไปได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณมากหรือได้รับทุกวันอาจเกิดการสะสมจนถึงระดับที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายได้โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้ ดังนั้นผู้บริโภคไม่ควรบริโภคอาหารชนิดเดียวซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน และบริโภคในปริมาณที่มาก" นพ.สุขุม กล่าว