แม่ทัพภาค 3 ตัวกลางไกล่เกลี่ย กรณีบ้านพักศาลดอยสุเทพ

2018-04-09 18:00:29

แม่ทัพภาค 3 ตัวกลางไกล่เกลี่ย กรณีบ้านพักศาลดอยสุเทพ

Advertisement

แม่ทัพภาค 3 นั่งหัวโต๊ะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐ หาทางออกการก่อสร้างบ้านพักศาล พร้อมให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการเพื่อเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่และสรุปแนวเขตที่ประชาชนต้องการให้รื้อภายใน 19 เม.ย.นี้ เพื่อเสนอต่อ หน.คสช.พิจารณา



เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 61 ที่มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน เปิดเวทีสาธารณะเพื่อร่วมกันหาทางออกกรณีโครงการ ก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ ตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณป่าเชิงดอยสุเทพ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยการประชุมครั้งนี้ มีนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พลตรีสาธิต ศรีสุวรรณ ผบ.มทบ.33 นายกริชสยาม คงสตรี หน.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผอ.สบอ.16 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล รอง ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ ว่าที่ร้อยตรียงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และตัวแทนภาคประชาชน กลุ่มเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นายอำเภอแม่ริม และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการเสวนาในครั้งนี้ โดยทางด้านศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้นไม่สามารถเดินทางมาร่วมเสวนาได้




พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สำหรับการเสวนาในครั้งนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันในการใช้พื้นที่ป่า แล้วหาจุดร่วมกัน จากนั้นก็จะได้นำเรียนต่อท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้า คสช. ผ่านทางท่าน ผบ.ทบ. ที่เป็นเลขาธิการ คสช. โดยจะทำให้แล้วเสร็จและส่งหนังสือภายในวันที่ 10 เม.ย. 61 นี้ เวทีนี้จะเป็นการแสดงออกความคิดเห็นทางด้านวิชาการ แสดงข้อเท็จจริง เหตุผล และความรักหวงแหนผืนป่าดอยสุเทพอย่างแท้จริง






ต่อมาทางด้านตัวแทนภาคประชาชนได้ผลัดเปลี่ยนกันแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ โดยภาพรวมที่ต้องการและมีความเห็นเหมือนกันคือ การรื้อถอนอาคารก่อสร้างบ้านพักจำนวน 47 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ออกจากพื้นที่ ที่เข้าไปในเขตป่า ส่วนอาคารสำนักงานด้านล่างและบ้านพักรวมถึงอาคารชุดที่เหลือที่อยู่โซนด้านล่าง ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพื่อที่จะนำเขตแนวป่ากลับคืนมาและทำการฟื้นฟูให้กลับมามีสภาพที่อุดมสมบูรณ์แบบเดิม

ด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ มี 4 แนวทาง คือ

1.ทางจังหวัดเป็นผู้กำกับตามกฎหมายการควบคุมอาคาร ซึ่งนายอำเภอแม่ริม และนายกฯ อบต.ดอนแก้ว ก็จะได้เข้าไปขอดูแบบการก่อสร้างต่างๆ เพราะทางชุมชนต้องการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ รวมถึงดูเรื่องระบบสาธารณูปโภค หากเป็นภาคเอกชนก็ต้องมีการตรวจสอบ และหากเป็นหน่วยงานของรัฐก็ต้องมีหน่วยงานรับรอง ทั้งโยธา วิศวะ สถาปนิกออกแบบให้



2.กรณีของผู้ประกอบการโดยชอบ หากเขาหยุดงานตอนนี้ก็จะเป็นผู้ทิ้งงาน บริษัทฯ ลงทุนไปแล้วยังไม่ได้เก็บเงินใครจะชดเชยให้ หรือจะให้ทำเหมือนในที่ประชุมพูดคือ ใช้ ม.44 จ่ายเงินให้เขาไป ก็ต้องมาดูความเห็นว่าจะช่วยกันอย่างไร เพราะเขาเป็นคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เขาประมูลได้อย่างถูกต้องด้วยกฎหมาย เพราะเขาก็จะได้รับผลกระทบด้วยสำหรับผู้ทิ้งงานจะมีผลกระทบหลายอย่างด้านการประกอบอาชีพ จะชดเชย ดูแลอย่างไร



3.มาดูว่าอะไรคือแนวที่เรียกว่า "ดอยสุเทพ" ซึ่งแต่เดิมก็ดูแค่อุทยานดอยสุเทพ-ปุย แนวเขตอุทยานฯ กับเขตของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ห่างกัน 230 เมตร ดังนั้นต้องมาดูว่า ดอยสุเทพมีพื้นที่แค่ไหน จะได้ชัดเจนว่าถ้าอยู่ในแนวเขตอุทยานฯ หรือนอกเขตอุทยานฯ ทำอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันคิดเพราะเป็นเรื่องของภาคีทั้งหมด ต่อไปจะได้บอกได้ว่าดอยสุเทพคืออะไร ตรงไหนควรจะเป็น ควรไหนที่ควรมี อย่างไหนไม่ควรมี



และ 4.การหาทางออกด้วยสันติวิธี เป็นหัวใจของเรื่อง การนำข้อเสนอเพื่อนำมาสู่การแก้ไขโดยสันติวิธี จะทำให้การทำงานต่อไปของราษฎร์-รัฐ ดำเนินการต่อไป และเชื่อมความสัมพันธ์ความรักระหว่างกัน

เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตาม หลัง 10 เม.ย. 61 นี้