เผยสาเหตุแท้จริง "จุ๊บแจง" สาวหน้าตาดีที่ไร้บ้าน เร่ร่อนนอนตามใต้สะพาน จนถูกล่วงละเมิดอยู่บ่อยครั้ง ลั่น ไม่อยากกลับภูมิลำเนาแต่จะอาศัยอยู่ที่เดิม 
เป็นความน่าสลดสุดหดหู่ใจเกินบรรยายจริงๆ กับภาพที่ได้เห็นพร้อมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนๆ หนึ่ง หลังเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว 3” โพสต์ภาพหญิงสาวไร้บ้านนิรนาม พร้อมระบุข้อความว่า
"ตามหาญาติและขอเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือวัยรุ่นสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง ที่กลายเป็นคนเร่ร่อน อาศัยอยู่ใต้สะพานตรงทางรถไฟตึกใบหยก ประตูน้ำ น้องคือใครทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้"
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษ์ (พม.) และทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณใต้สะพานแยกราชปรารภ สภาพเป็นสถานที่อยู่อาศัยแบบชั่วคราว พบที่นอนปิกนิกพร้อมหมอนและเสื้อผ้าใส่ไว้ถุงพลาสติก มีขวดเบียร์ และอุปกรณ์คล้ายที่ใช้เสพยาเสพติดรวมอยู่ด้วย ซึ่ง ณ จุดนั้นมีหญิงสาวตามข่าวอยู่ด้วย สอบถามทราบชื่อว่า น.ส.ปริศนา จงบริบูรณ์ หรือ จุ๊บแจง อายุ 34 ปี พร้อมกับแฟนหนุ่มชื่อนายต้น ซึ่งเมื่อนายต้นเห็นคนมาเยอะจึงได้รีบหนีไป
ด้าน "จุ๊บแจง" อยู่ในสภาพค่อนข้างสกปรก เสื้อผ้าผมเผ้ากระเซิง พูดคุยได้แต่ไม่สามารถจับใจความที่แท้จริงได้เลย มีภาษาอังกฤษและไทยสลับไปมา ซึ่งมีบางประโยคที่เธอบอกว่าเธอมาจากสวิตเซอร์แลนด์ มีบุตร 1 คน
โดยหลายคนยังคงสงสัยถึงที่มาที่ไปของหญิงสาว และต่างมองว่าน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก หากไร้หน่วยงานใดๆ เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อสอบถามผู้ที่รู้จัก "จุ๊บแจง" บอกว่า "เธอคนนี้เคยทำงานที่ร้านคาราโอเกะ เป็นคนมีฐานะค่อนข้างดี มีลูกอายุ 4 ขวบ 1 คน ปัจจุบันพ่อและแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว สมบัติมรดกที่เคยได้รับมาก็หมดไปกับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และยาเสพติด สุดท้ายต้องมาร่อนเร่อยู่ใต้สะพาน กับนายต้นแฟนหนุ่ม ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ " #จุ๊บแจงสาวเร่ร่อน " ต้องเจอกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศอยู่บ่อยครั้ง ทั้งจากแฟนหนุ่มเองและคนแปลกหน้าสถานะคนเร่ร่อนเฉกเช่นเธอ โดยมียาเสพติดเป็นตัวการของเรื่องทั้งหมด
และสิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตเกิดความเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิมคือ เมื่อมีคนถาม "จุ๊บแจง" ว่าอยากกลับบ้านหรือไม่ เจ้าตัวตอบชัดเจนเลยว่าอยากอยู่ใต้สะพานมากกว่า พร้อมปฏิเสธการช่วยเหลือนำพาตัวสู่ภูมิลำเนา ด้าน นายศิริภูมิ แก้วพวง เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ ระบุว่า ได้ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจนำใบส่งตัว น.ส.ปริศนา ไปรักษาที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เพราะประเมินเบื้องต้นว่าน่าจะมีอาการทางจิต และไม่สามารถพูดคุยโต้ตอบได้รู้เรื่อง ซึ่ง "จุ๊บแจง" มีสิทธิการรักษาพยาบาลอยู่ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ส่วนนายต้นซึ่งเป็นแฟนของ "จุ๊บแจง" นั้น ขณะนี้ยังไม่พบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องลงพื้นที่ไปติดตามตัวกลับมาเพื่อทำการรักษาดูแลต่อไป
ซึ่งนี่เป็นเพียงเคสหนึ่งในหลายพันหลายหมื่นเคสเท่านั้นที่ออกมาเผยด้านมืดสังคมไทยให้เป็นข่าวดังจนชาวโลกได้รับรู้ หากเพียงแต่ว่า ยังคงมีคนเร่ร่อนอีกมากมายที่เข้าข่ายใช้ยาเสพติดเป็นเหตุให้ชีวิตติดอยู่ในหล่มลึกไม่สามารถหลุดจากวงจรอุบาทว์นี้ได้ สร้างปัญหาแก่สังคมเรื่อยมา ทางภาครัฐและคนในสังคมไทยหากต้องการช่วยเหลือหาทางออกให้สาเหตุดังกล่าวอย่างแท้จริง ต้องเร่งระดมสมองออกนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดอย่างตรงจุด และเร่งด่วน เพราะเยาวชนทุกวันนี้เข้าถึงแหล่งค้ายาได้ง่ายมากๆ ทุกคนต้องช่วยกัน