สายเขียวประกาศยกระดับชุมนุมขีดเส้นตาย 11 มิ.ย.

2024-06-10 15:10:29

สายเขียวประกาศยกระดับชุมนุมขีดเส้นตาย 11 มิ.ย.

Advertisement

สายเขียวประกาศยกระดับชุมนุมขีดเส้นตาย 10 โมงเช้า   11 มิ.ย.  "ประสิทธิชัย"  แกนนำกลุ่มสนับสนุนการใช้ประโยชน์กัญชา ยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี ไม่นำกัญชาเป็นยาเสพติด โดยให้ออก ก.ม.ควบคุมการใช้กัญชา

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 67 ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล นายประสิทธิชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย พร้อมมวลชน สนับสนุนการออกกฎหมายควบคุมการใช้กัญชา ไม่ต้องการให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่านทางนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่า จะให้เวลารัฐบาลให้คำตอบภายในวันที่ 11 มิ.ย.2567 เวลา 10.00 น. ไม่เช่นนั้นจะยกระดับการชุมนุม โดยจะย้ายสถานที่ชุมนุมเข้าไปประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบความต้องการในการใช้ประโยชน์จากกัญชา ทั้งด้านการแพทย์ สุขภาพ และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ประชาชนเข้าถึงกัญชาในฐานะพืชสมุนไพรไทยที่มีคุณค่า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเรียกร้องที่เสนอต่อนายกรัฐมนตรี มีดังนี้ 1.การควบคุมกัญชาจะต้องใช้กฎหมายเฉพาะหรือพ.ร.บ.กัญชา จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการควบคุมโดยประมวลกฎหมายยาเสพติด นายกรัฐมนตรีพึงตระหนักว่า การที่พรรคของท่านเอากัญชากลับสู่ยาเสพติดจะทำให้ผู้ที่ผลิตกัญชาจะเหลือเพียงกลุ่มทุนใหญ่ และเมื่อพูดถึงกัญชาทางการแพทย์ภายใต้กฎหมายยาเสพติดประชาชนจะไม่ได้ใช้ยากัญชาหรืออาจใช้ได้แต่ต้องจ่ายในราคาสูงมากเหมือนประสบการณ์ช่วงหนึ่งในประเทศอังกฤษ การนำกัญชาสู่ยาเสพติดจะทำให้คนกลุ่มเดียวควบคุมกัญชาที่มีมูลค่านับแสนล้าน ส่วนการอ้างว่าเมื่อนำกัญชาเข้าสู่ยาเสพติดจะสามารถปกป้องเยาวชนได้ขอให้รัฐบาลสรุปบทเรียนการปกป้องเยาวชนของรัฐบาลภายใต้วิธีคิดแบบเดิมสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่  2.หากรัฐบาลยังไม่ยอมรับในการควบคุมกัญชาด้วยกฎหมายพระราชบัญญัติ ขอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคประชาชนและภาครัฐเพื่อสำรวจวิจัยข้อมูลในมิติต่างๆเกี่ยวกับกัญชา โดยใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ จำนวน 2 ชุดมากำหนดสถานะของกัญชา ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องเลิกตั้งธงว่ากัญชาต้องควบคุมโดยกฎหมายยาเสพติด

ชุดที่ 1 ข้อมูลเปรียบเทียบในประเด็นข้อดีข้อเสียระหว่างกัญชากับสิ่งที่รัฐบาลอนุญาตให้ประชาชนเข้าถึงแบบง่ายดายคือบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีลักษณะที่จะต้องพิสูจน์คือ ข้อดีและข้อเสียต่อร่างกาย ข้อดีและข้อเสียต่อสังคมและคุณสมบัติในการรักษาโรค หากปรากฏว่าคุณสมบัติทั้ง 3 ประการของกัญชา ไม่ได้ร้ายแรงกว่าสุราและบุหรี่ ก็ต้องควบคุมกัญชาโดยกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ

ชุดที่2 ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคประชาชน ภาครัฐ เพื่อสำรวจวิจัยชุดข้อมูลว่าด้วยผลที่เกิดขึ้นจากการปลดล๊อคกัญชา 2 ปี หากผลการวิจัยพบว่ากัญชาก่อประโยชน์มากกว่าและข้อเสียสามารถออกกฎหมายควบคุมได้ก็ให้นำกัญชาไปควบคุมโดยกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ